เทคนิคในการหาลูกค้าผ่านออนไลน์

ช่องทางในการทำยอดขาย ด้วยการหาลูกค้าบนโลกออนไลน์

ในปัจจุบันเราได้ยินคำว่า New Normal กันเยอะมากขึ้น แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า คำว่า New Normal นั้นมันไม่ได้เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนไทยเท่านั้น แต่มันยังปรับเปลี่ยน วิธีการช้อปปิ้ง วิธีการจับจ่ายใช้สอยของคนไทยเกือบ 100% เลยทีเดียว ยกตัวอย่างการซื้อของ ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คนไทยส่วนใหญ่จะเดินทางไปซื้อของตามห้างสรรพสินค้ากันมากการการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ แต่หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสขึ้นมา พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ยกตัวอย่างเช่น วิธีการซื้อของ จากสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้คนไทยปรับเปลี่ยนวิธีการซื้อของ เป็นการสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์กันแทบทั้งนั้น ซึ่งรวมไปถึงการสั่งอาหารด้วย

ตอนนี้ถ้าผู้ประกอบการท่านไหนที่ไม่ปรับเปลี่ยนวิธีการขายของจาก offline มาเป็น online บอกได้คำเดียวเลยว่าธุรกิจของคุณไปไม่รอดแน่นอน เพราะว่าลูกค้าของคุณจะค่อยๆหายไปทีละเล็กทะละน้อยจนแทบจะไม่เหลือเลย ลูกค้าถือว่าเป็นผู้ที่จะตัดสินชะตากรรมของธุรกิจของคุณ การทำตลาดบนโลกออนไลน์ในปัจจุบันถือว่า สำคัญมากๆ เป็นแหล่งที่รวบรวมความต้องการของผู้ซื้อเอาไว้ด้วยกัน การตลาดบนโลกออนไลน์ มันปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาดูกันว่าเราจะสามารถหาลูกค้าผ่านทางออนไลน์ได้กัน

รายงานจากฝ่ายขาย (Report from Sale Team)

ในช่วงนี้ถ้าอยากจะเพิ่มยอดขายผ่านทางออนไลน์ ให้คุณอัพเดทข้อมูลกับทางฝ่ายขายของบริษัทของคุณก่อนเลย เนื่องจากฝ่ายขายของบริษัทจะเป็นฝ่ายที่ได้พบปะกับลูกค้าจริงๆ และ ฝ่ายขายจะเป็นคนที่สามารถให้ข้อมูลกับเราได้ดีมากที่สุด ตรงที่สุด แบรนด์ส่วนใหญ่จะมีทีมฝ่ายขาย ซึ่งจะเป็นฝ่ายจะเป็นแผนกที่ทราบถึงข้อมูลของลูกค้ามากที่สุด ซึ่งในส่วนของข้อมูลเหล่านี้ เราสามารถนำมาวิเคราะห์ในเชิงลึก แล้วนำมาปรับเทคนิค เพื่อที่จะเพิ่มยอดขาย หรือ กำหนดเป้าหมายของลูกค้าได้ตรงกลุ่มมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น พฤติกรรมการซื้อของ จากลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยการสอบถามเกี่ยวกับโปรโมชั่นที่ลูกค้าสนใจ, เหตุผลที่ลูกค้าซื้อเพราะอะไร, แรงจูงใจในการซื้อ เป็นต้น

บทความ (Content)

การสร้างคอนเทนต์ เพื่อดึงดูลูกค้าให้เข้ามาในเพจ หรือ เว็บไซต์ ของคุณ ที่สามารถตอบทุกคำถามของลูกค้าได้นั้น จะไม่มีประโยชน์เลยถ้า ลูกค้าของคุณไม่เห็น Content ที่คุณเขียนขึ้นมา ไม่ว่าคอนเทนต์ที่เขียนจะดีแค่ไหน มีบทความในคอนเทนต์นั้นเยอะแค่ไหน แต่ถ้าลูกค้าไม่เห็น ก็เท่ากับเปล่าประโยชน์ เพราะฉะนั้นก่อนที่คุณจะทำคอนเทนต์ขึ้นมาคอนเทนต์นึง ให้คุณกำหนดเป้าหมายก่อนเลย ว่าต้องการให้ลูกค้าประเภทไหนเข้ามาอ่าน อยากจะให้ติดใน Keyword ไหน แนะนำให้ลองอ่านวิธีการทำบทความในรูปแบบ SEO เพื่อผลลัพธ์ในระยะยาว ของเว็บไซต์ หรือ เพจของคุณ บทความที่ดี ควรจะต้องมี Keyword ที่คนสนใจในบทความนั้นด้วย

เทรนด์ (Trend)

การมองหาเทรนด์ เพื่อมาทำ คอนเทนต์ ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับคนที่กำลังมองหาช่องทางการทำธุรกิจผ่านโลกออนไลน์ ในปัจจุบัน เทรนด์มาไวไปไวมากๆ ทุกๆอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งที่เราควรจะต้องทำก็คือการ จับเทรนด์ ให้ถูกที่ถูกเวลา และ เมื่อเรารู้เทรนด์แล้ว เราสามารถนำเทรนด์นั้นๆ มาทำคอนเทนต์เพื่อขายสินค้าได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าอะไรที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ขณะนั้น มันขายได้แน่นอน

คีย์เวิร์ด (Keyword)

แปลเป็นภาษาไทยง่ายก็คือ คำที่คนสนใจ หรือ คำที่คนหา นั่นเอง ให้คิดไว้ในหัวเสมอเลยว่า คำไหนที่มี Search Volume คำนั้น หรือ สินค้านั้น ขายได้แน่นอน เนื่องจากว่ามีคนหา และ เมื่อมีคนหา ก็เท่ากับว่ามีคนต้องการซื้อสินค้านั้นๆ

Keyword ยังถูกแบ่งออกเป็น Long-tail Keyword และ Short-tail Keyword ยกตัวอย่างคำว่า หน้ากากอนามัย ถ้าเป็นคำในรูปแบบ Short-tail Keyword ก็คือ “หน้ากากอนามัย” แต่ถ้าเป็น Long-tail Keyword ก็คือ “หน้ากากอนามัย กันน้ำ” ซึ่งการเขียนบทความขึ้นมา บทความนึง ไม่ว่าคุณจะเขียนถูกหลัก SEO ด้วยคำที่คุณต้องการจะให้ติดมากขนาดไหน เปอร์เซนต์ ในการที่คอนเทนต์ที่เราเขียน ที่จะติดใน Short-tail คีย์เวิร์ด แทบจะไม่มีเลย เนื่องจากคีย์เวิร์ด ในรูปแบบ Short-tail มันติดยากมากๆ คู่แข่งเยอะ เพราะฉะนั้นเวลาที่ทำคอนเทนต์ขึ้นมา ควรจะให้ความสำคัญไปในส่วนของการทำ Long-tail Keyword ด้วย เพราะว่ามันมีโอกาสที่จะติดมากกว่า