โครงการช้อปดีมีคืน ล่าสุด ลดหย่อนภาษี 30000 บาท

โครงการช้อปดีมีคืน ลดภาษีสูงสุด 3 หมื่นบาท

มาแล้วของขวัญปีใหม่จากทางรัฐบาล เป็นอีกหนึ่งโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ กับโครงการที่มีชื่อว่า ช้อปดีมีคืน จากทางรัฐบาล วันนี้ได้ลงมติเห็นชอบแล้ว

จากการเปิดเผยข้อมูล ของการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้ลงมติเห็นชอบมาตรการ ช้อปดีมีคืน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2565 สำหรับขั้นตอนในการประกาศร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร เป็นการกำหนดให้ผู้ที่มีเงินได้ ซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคล ที่ไม่ใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนภาษีซื้อสินค้า หรือ บริการเท่าที่จ่ายได้เป็นค่าซื้อสินค้า หรือ บริการสำหรับการซื้อสินค้าหรือบริการ ในราชอาณาจักร ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ไปจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565

หลักเกณฑ์ และ เงื่อนไข ช้อปดีมีคืน

สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไข สำหรับโครงการ ช้อปดีมีคืน จากทางรัฐบาล ซึ่งทางอธิบดีกรมสรรพากร ประกาศกำหนด เป็นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศไทย และสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี และผู้ประกอบการการผลิตสินค้าท้องถิ่น หรือ OTOP นอกจากนี้ทางคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือกลุ่มนักดนตรี, ธุรกิจกลางคืน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์จ่าย 5,000 บาทต่อราย วงเงินประมาณ 600 ล้านบาท

นอกจากมาตรการดังกล่าง คณะรัฐมนตรี ยังได้เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นอาคารที่อยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ หรือที่เดินพร้อมอาคารที่อยู่อาศัย หรือ อาคารพาณิชย์ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด การเรียกเก็บค่าธรรมเนียม จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ตามหลักเกณฑ์คณะรัฐมนตรี กำหนด รวม 2 ฉบับ

  • มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และ นิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย เป็นการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์ จากเดินร้อยละ 2
  • ค่าจดทะเบียนการจำนองอสัมหาริมทรัพย์ อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 1 เหลือร้อยละ 0.01

มาตรการทางภาษีอากร และ ค่าธรรมเนียมเพื่อสนับสนุน

การปรับปรุงโครงการหนี้ ประกอบด้วยการร่างกฎหมายยกตัวอย่างเช่น การร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความประมวลรัฐฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ทางภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2563 มาตรการต่อเติมเสริมทุน SMEs สร้างไทย และ มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 เรื่องมาตรการดูและ และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 กับเศรษฐกิจไทย ทั้งทางตรงและทางอ้อมขยายระยะ 2 ออกไปอีก 2 ปีจากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2569