วัคซีนโมเดิร์นนา จากอเมริกา ที่โรงพยาบาลเอกชนในไทยสั่งเข้ามาแต่โดนระงับ
คณะแพทยศาสตร์ศิริราช ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดวัคซีน จากบริษัทโมเดิร์นนา หลังจากที่โรงพยาบาลเอกชนไทย นำเข้ามาแต่ทาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ระงับเอาไว้ เนื่องจาก วัคซีนยังไม่นิ่ง ควรรอผลการใช้ในวงกว้าง ภายหลัง FDA ได้มีการอนุมัติให้สามารถใช้งานได้แบบฉุกเฉิน
จากกรณีที่กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้ โดยมีโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งนึงในกรุงเทพมหานคร ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปจองวัคซีนโควิด 19 ของบริษัท Moderna ในราคา 4,000 บาทจำนวน 1,000 รายหมดเขตในวันที่ 31 มกราคม 2564 ก่อนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. จะสั่งเบรกการสั่งวัคซีนดังกล่าวออกไปก่อน เนื่องจากยังไม่สามารถจองวัคซีนได้ และ การผลิตวัคซีน หรือ ยาจะต้องผ่านการตรวจสอบก่อนตามที่มีรายงานไปแล้ว
ข้อมูลจากทาง ศาสตราจารณ์ ดร. นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนของทั่วโลก ขณะนี้มีวัคซีนโควิด-19 ที่ผ่านการศึกษาในระยะที่ 3 อาจจะประสบคสามสำเร็จและใช้ได้จริงเพียง 50% อีกทั้งคนจากต่างพื้น ต่างวัย อาจตอบสนองต่อการฉีบวัคซีนไม่เหมือนกัน ทำให้เป็นเหตุผลที่วัคซีนใหม่ จะต้องทำการ Post Marketing Surveillance หรือการติดตามภาวะข้างเคียงที่เกิดขึ้น หลังจากที่ได้รับวัคซีนโควิดไปแล้ว ในระดับพันล้านคน และติดตามว่าวัคซีนดังกล่าวเป็นไปตามผลการศึกษาหรือไม่ ทั้งนี้คาดว่าทั่วโลกจะมีวัคซีนที่พร้อมใช้ไม่เร็วไปกว่ากลางปี 2021 แน่นอน
ข้อมูลล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาวัคซีนในวันที่ 26 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมาผลปรากฎว่า ตอนนี้มีวัคซีนที่อยู่ในกระบวนการพัฒนากว่า 100 บริษัท วีคซีนบางตัวเริ่มมีการใช้งานในบางประเทศที่มีภาวะความฉุกเฉิน ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เป็นจำนวนมาก และ 1 ในบริษัทที่ถูกให้ถอนออกไปเนื่องจากมีผลข้างเคียงที่ไม่สามารถยอมรับได้
วัคซีนโควิด-19 จากบริษัท Moderna
สำหรับวัคซีนจากบริษัท Moderna นั้นเป็นวัคซีนที่ถูกผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นวัคซีนที่พัฒนาด้วยวิธี mRNA ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาผลข้างเคียงแบบ post marketing surveillance ว่าวัคซีนดังกล่าว เป็นไปตามผลการศึกษาล่าสุดหรือไม่ มีประสิทธิภาพโดยรวม 94.1% แต่ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะทำให้ภูมิคุ้มกันอยู่ได้นานเท่าไหร่ แต่น่าจะไม่น้อยกว่า 3 เดือน ขณะนี้วัคซีนดังกล่าวทดลองกับคนแล้วจำนวน 30,000 ในนั้น 7,000 รายมีอายุมากกว่า 65 ปี มีผลข้างเคียงได้แก่ ปวดศรีษะ 63%, อ่อนเพลีย 68%, ปวดข้อ 45%, หนาวสั่น 48% และ ล่าสุพด FDA อนุมัติให้ใช้งานแบบฉุกเฉินในประเทศสหรัฐอเมริกาในวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา และได้รับการอนุมัติให้ใช้ในประเทศแคนนาดาในวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน
วัคซีนจากบริษัท Pfizer-BioNTech
วัคซีนที่ถูกผลิตจากบริษัท Pfizer-BioNTech ซึ่งเป็นวัคซีนที่ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยวิธี mRNA เช่นเดียวกับบริษัท Moderna ถือว่าเป็นวัคซีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาผลข้างเคียงแบบ post marketing surveillance เช่นเดียวกัน มีรายงานว่า จากการทดลองกับคนประมาณ 43,000 รายพบว่าประสิทธิภาพโดยทั่วไปสูงถึง 95% ในกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 65 ปี และมีประสิทธิภาพไม่ต่างกันเมื่อใช้กับคนหลากหลายเชื้อชาติ ผลข้างเคียงสำหรับผู้ป่วยอ้วน, ผู้ป่วยเบาหวานไม่รุนแรง ซึ่งตอนนี้สหราชอาณาจักร ได้อนุมัติให้ใช้แบบฉุกเฉินทั่วประเทศ รวมไปถึง FDA อนุมัติให้ใช้งานแบบฉุกเฉินในประเทศสหรัฐ