กองทุน SSF กับ SSFX
- สิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund: LTF) นั้นสิ้นสุดลงไปในปี พ.ศ. 2562 ทำให้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา หลายคนทราบกันดีว่ามีข่าวเกี่ยวกับมติเห็นชอบให้สิทธิประโยชน์ของกองทุน SSF ให้สามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีปี 2563 ได้ ทำให้หลายคนยังสงสัยว่า SSF คืออะไร? แล้วทำไมจึงมี SSFX แบบพิเศษเข้ามาด้วย จะวางแผนลดหย่อนภาษีอย่างไร เมื่อใกล้ระยะเวลาสิ้นสุดการยื่นภาษีของปี 2562 แล้ว วันนี้เราจึงมาสรุปให้ได้อ่านกัน เพื่อประกอบในการตัดสินใจซื้อกองทุน
กองทุน SSF
- ชื่อเต็มคือ กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) เป็นกองทุนที่ตั้งขึ้นมา เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินระยะยาวมากขึ้น โดยสามารถเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท (แตกต่างจากกองทุน LTF ที่ให้ลงทุนหุ้นไทยเป็นหลัก)
- กองทุน SSF ไม่ได้กำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการซื้อหน่วยลงทุน รวมถึงไม่ได้มีเงื่อนไขในการซื้อต่อเนื่อง
- สามารถซื้อกองทุน SSF เพื่อนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ โดยมีข้อกำหนดดังนี้
- ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
- เมื่อนำไปรวมกับกองทุนการออมอื่นๆ เช่น กองทุน RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน, กองทุนการออมแห่งชาติ ฯลฯ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
- ต้องถือครองเป็นเวลา 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ จึงจะสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ (ไม่เสียสิทธิประโยชน์ทางภาษี)
- แต่ปัจจุบันสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุน SSF ถูกกำหนดไว้ที่ 5 ปี (2563 – 2567)
หลังจากนั้นกระทรวงการคลังจะทำการประเมินผลต่อไป
- แต่ปัจจุบันสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุน SSF ถูกกำหนดไว้ที่ 5 ปี (2563 – 2567)
กองทุน SSFX
- กองทุน SSF พิเศษ หรือกองทุน SSF เฉพาะกิจ หรือกองทุน SSF Extra (SSFX) เป็นกองทุน SSF แต่มีการปรับข้อกำหนดให้คล้ายกับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
- ข้อกำหนดเงื่อนไขการลงทุน ได้แก่
- ต้องลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด เช่นเดียวกับ LTF
- ต้องลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด เช่นเดียวกับ LTF
- สามารถซื้อกองทุน SSF Extra (SSFX) และนำมาลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้นอีกถึง 200,000 บาท
- สิทธิลดหย่อนภาษี จะแยกจากวงเงินลดหย่อนการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน SSF ปกติ และ RMF
ตัวอย่างเช่น- ซื้อกองทุน SSF ปกติ ไว้เต็มวงเงิน 200,000 บาท ยังสามารถซื้อ SSFX ได้อีกไม่เกิน 200,000 บาท
= สามารถใช้สิทธิ SSF ลดหย่อนภาษีสำหรับปี 2563 ได้เต็มที่ถึง 400,000 บาท - ซื้อกองทุนทั้ง RMF, SSF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และประกันชีวิตแบบบำนาญ ได้เต็มที่ 500,000 บาท ยังมีสิทธิ์ซื้อ SSFX เพิ่มได้อีก 200,000 บาท
= สามารถใช้สิทธิจากการลงทุนเพื่อการลดหย่อนภาษีสำหรับปี 2563 ได้เต็มที่ถึง 700,000 บาท
- ซื้อกองทุน SSF ปกติ ไว้เต็มวงเงิน 200,000 บาท ยังสามารถซื้อ SSFX ได้อีกไม่เกิน 200,000 บาท
- สิทธิลดหย่อนภาษี จะแยกจากวงเงินลดหย่อนการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุน SSF ปกติ และ RMF
- แต่การลดหย่อนภาษี มีข้อกำหนดเพิ่มเติม ดังนี้
- ต้องซื้อกองทุน SSFX ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2563 – 30 มิถุนายน 2563 เท่านั้น
- ต้องถือครองเป็นเวลา 10 ปีขึ้นไปนับจากวันที่ซื้อ (ไม่น้อยกว่า 10 ปี)