กระทรวงศึกษาธิการ แจ้งเปิดเรียนตามปกติ
เปิดเผยจากทางด้านรัฐมนตรีศึกษาธิการ เกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจที่เริ่มให้ทดลองเปิดเรียนตามปกติแบบ 100% ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563 นี้ โดยให้นักเรียนต้องทำการจดบันทึกประจำวัน เพื่อเป็นข้อมูลสอบสวนโรค เมื่อมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยการเปิดให้นักเรียน ได้ทดลองเรียนแบบเต็มรูปแบบ 100% ทั่วประเทศนั้น จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 13 สิงหาคม 2563 นี้ ภายหลังที่ นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงนามรับทราบเมื่อวานนี้
ทางกระทรวงศึกษายังมอบหมายให้สถานศึกษา กำหนดให้นักเรียนต้องบันทึกประจำวัน เพื่อเก็บเอาไว้เป็นข้อมูลว่าได้ไปยังพื้นที่ใดมาบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลหากตรวจพบความเสี่ยงของการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยให้สถานศึกษามอบหมายให้คุณครูเป็นผู้ดูแลจัดการ และ ในส่วนของมาตรการ ในการเว้นระยะห่างนั้น จากเดิมที่ต้องเว้นระยะห่าง 1.5 เมตร สามารถจัดพื้นที่ได้ตามปกติ หลักๆคืนนักเรียนจะต้องยึดหลักในการสวมหน้ากาก และ ใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ ตามมาตรการของทางกระทรวงสาธารณสุข
การเปิดทดลองเรียนแบบเต็มรูปแบบนั้น ทางกระทรวงศึกษาธิการ ออกมาเปิดเผยว่าจะต้องทำการประเมินเป็นระยะๆ เพื่อเป็นแนวทางในการปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ อีกทั้งยังต้องหารือเพิ่มเติมในส่วนของการเกณฑ์การวัดผลเด็กในอนาคต ซึ่งมีการออกมาย้ำว่า ไม่จำเป็นต้องเน้นเฉพาะการสอบเสมอไป ในปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีโรงเรียนที่จะปลดล็อกที่อยู่ในสังกัดจำนวน 4500 แห่ง การทำกิจกรรมในโรงเรียนนั้น กิจกรรมใดที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสร่างกาย ให้โรงเรียนงดให้หมด และ กำชับโรงเรียนทุกแห่งให้นักเรียนทำการ สแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะทุกครั้ง หรือให้คุณครูทำการจดบันทึกแทน หากไม่พร้อมเพื่อทราบรายละเอียด และ เส้นทางในการเดินทางของนักเรียน
ทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีมาตรการออกมารองรับ ถ้าหากพบเด็กติดเชื้อโควิดเกิดขึ้น ให้ยึดแนวทางปฎิบัติจากทาง ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และ กระทรวงสาธารณสุข