เปิดโลก Affiliate ไทย vs ต่างประเทศ ต่างกันยังไง?

ถ้าอยากเริ่มทำ Affiliate Marketing ควรเลือกตลาดไหนดี?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Affiliate Marketing กลายเป็นหนึ่งในช่องทางหารายได้ออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งในไทยและต่างประเทศ หลายคนสามารถทำรายได้หลักหมื่น หลักแสน หรือแม้แต่หลักล้านบาทจากการโปรโมตสินค้าผ่านลิงก์เพียงลิงก์เดียว

แต่คำถามที่เกิดขึ้นบ่อยมากในหมู่มือใหม่คือ:
“จะเริ่มทำกับของไทย หรือของต่างประเทศดีกว่ากัน?”
ตลาดไหนง่ายกว่า รายได้ดีกว่า หรือเหมาะกับคนไทยมากกว่ากัน?

บทความนี้จะพาคุณ เปิดโลก Affiliate Marketing ของไทย vs ต่างประเทศ วิเคราะห์ทุกแง่มุมเพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า ควรเลือกทางไหน หรือควรทำทั้งสองตลาดควบคู่กัน

ทำ Affiliate กับ “ของไทย” คืออะไร?

การทำ Affiliate กับของไทย คือการเลือกโปรโมตสินค้า บริการ หรือแบรนด์ที่เจาะตลาด “ผู้บริโภคคนไทย” โดยส่วนใหญ่จะมีภาษาไทยรองรับ และใช้แพลตฟอร์มที่เราคุ้นเคย เช่น Shopee, Lazada, JD Central, TikTok Shop หรือแพลตฟอร์มกลางอย่าง ACCESSTRADE และ Interspace

ทำ Affiliate กับ “ต่างประเทศ” คืออะไร?

คือการเลือกโปรโมตสินค้าหรือบริการที่เจาะตลาดต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ ยุโรป หรือประเทศอื่น ๆ ผ่านโปรแกรมอย่าง Amazon Associates, ClickBank, CJ Affiliate, ShareASale, Impact.com และแพลตฟอร์มเฉพาะทางอื่น ๆ เช่น โปรแกรมของ Canva, Hostinger, หรือคอร์สเรียนออนไลน์

เปรียบเทียบแบบชัด ๆ: Affiliate ไทย vs ต่างประเทศ

ประเด็น ไทย ต่างประเทศ
ภาษา ใช้ภาษาไทย สื่อสารง่าย ต้องใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาท้องถิ่น
กลุ่มเป้าหมาย คนไทย เข้าใจพฤติกรรมได้ง่าย ต้องเข้าใจวัฒนธรรมต่างชาติ
แพลตฟอร์มหลัก Shopee, Lazada, TikTok Shop, Accesstrade Amazon, ClickBank, ShareASale, CJ
ค่าคอมมิชชั่น 1%–30% แล้วแต่สินค้า บางรายการได้มากถึง 40–75% (โดยเฉพาะ digital product)
ช่องทางทำเงิน Facebook, TikTok, LINE, Blog Blog, YouTube, SEO, Email Marketing
การแข่งขัน คู่แข่งเยอะ แต่ตลาดเฉพาะ (niche) ยังมีที่ว่าง ตลาดใหญ่ คู่แข่งมาก แต่มีโอกาสสูงถ้าทำดี
การจ่ายเงิน โอนบัญชีธนาคารไทย / พร้อมเพย์ มักใช้ PayPal, Payoneer หรือโอนเข้าบัญชีต่างประเทศ
ต้นทุนเริ่มต้น ทำฟรีได้เลย (บางโปรแกรมไม่ต้องสมัคร) บางโปรแกรมต้องมีเว็บหรือผ่านการอนุมัติ
โอกาส Passive Income คอนเทนต์ติด Google ยังทำเงินได้ต่อ ทำ SEO หรือ Email list ดีๆ สร้างรายได้ระยะยาว

ข้อดีของการทำ Affiliate กับ “ตลาดไทย”

✅ เริ่มง่าย ไม่ต้องเก่งภาษา

ไม่ต้องพูดภาษาอังกฤษ ไม่ต้องใช้เว็บหรูหรา แค่รู้วิธีโพสต์ หรือรีวิวบนโซเชียลก็เริ่มได้แล้ว

✅ เข้าถึงผู้ซื้อได้ง่าย

เพราะรู้จักพฤติกรรมของคนไทย เช่น ซื้อของจากโปร, ชอบโค้ดลด, แพ้ง่าย/ซื้อเร็ว

✅ ใช้ช่องทางที่ถนัด

ไม่ว่าจะเป็น TikTok, LINE, Facebook หรือแม้แต่การพูดบอกต่อกับเพื่อนก็ใช้ได้หมด

✅ เหมาะสำหรับสายรีวิวรายวัน

โพสต์ของลดราคา, ไลฟ์สดขายของ, รีวิวโปรใหม่ ๆ — คนไทยชอบมาก

ข้อดีของการทำ Affiliate กับ “ต่างประเทศ”

✅ รายได้สูง ค่าคอมเยอะ

โดยเฉพาะสาย Digital Product เช่น คอร์สออนไลน์, เว็บโฮสติ้ง, ซอฟต์แวร์ ได้คอมมิชชั่น 30–75%
ยิ่งคนซื้อรายเดือนหรือจ่ายต่อเนื่อง (Recurring) ก็ยิ่งทำเงินระยะยาว

✅ ตลาดใหญ่

กลุ่มเป้าหมายคือคนทั้งโลก โดยเฉพาะตลาดอเมริกา อังกฤษ ซึ่งมีกำลังซื้อสูง

✅ Passive Income จริงจัง

ถ้าคุณทำ SEO หรือบทความรีวิวดี ๆ ขึ้นหน้าแรก Google รายได้จะเข้ามาแบบไม่ต้องโพสต์ซ้ำ

✅ การแข่งขันเชิงคุณภาพ

เน้นการเขียนเนื้อหาดี ทำเว็บไซต์คุณภาพ ไม่ต้องแข่งโพสต์ถี่เหมือนในไทย

ทำไมไม่เลือก “ทำทั้งสองตลาด” ไปเลย?

หลายคนอาจเริ่มจากตลาดไทย เพราะเริ่มง่ายและถนัด แล้วค่อยขยับไปทำตลาดต่างประเทศเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น เช่น เรียนรู้ SEO, เขียนคอนเทนต์ภาษาอังกฤษ, ใช้ WordPress หรือ Email marketing

อีกทางเลือกที่นิยมคือ:

👉 ทำช่อง YouTube ภาษาไทยคู่กับเว็บ Blog ภาษาอังกฤษ
👉 แชร์คอนเทนต์ใน Facebook + ทำ Email list สำหรับสายต่างประเทศ
👉 ใช้ AI ช่วยแปลและสร้างบทความภาษาอังกฤษเพื่อทำตลาด global

สรุป: ควรเริ่มที่ไหนก่อน?

ถ้าคุณ…

  • อยากเริ่มเร็ว

  • ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ

  • ชอบเล่นโซเชียล หรือถ่ายรีวิว
    ✅ เริ่มจาก Affiliate ไทย จะดีกว่า

ถ้าคุณ…

  • ถนัดเขียนภาษาอังกฤษ

  • อยากสร้างรายได้ระยะยาวแบบ Passive

  • ยินดีศึกษาเรื่อง SEO, Blog, Email marketing
    ✅ ควรเริ่มหรือขยับไปที่ ตลาดต่างประเทศ

สุดท้าย: ความต่างไม่ได้แปลว่าดีกว่าหรือแย่กว่า

ทั้ง Affiliate ไทยและต่างประเทศมี ข้อดี–ข้อจำกัด คนที่ประสบความสำเร็จจริงคือคนที่ “รู้จุดแข็งของตัวเอง” และเลือกช่องทางที่เหมาะกับสไตล์ของตัวเองที่สุด

“อย่าเลือกตามคนอื่น เลือกตามสิ่งที่คุณทำได้ต่อเนื่อง”

เริ่มจากจุดที่คุณอยู่ แล้วค่อยขยายไปสู่จุดที่ใหญ่ขึ้น
เพราะสุดท้าย รายได้จาก Affiliate คือผลลัพธ์ของ ความสม่ำเสมอ + กลยุทธ์ที่ใช่