การกลับมาอีกครั้งของการระบาดระลอก 3 จากคลัสเตอร์ สถานบันเทิง

และแล้วโควิด-19 ก็กลับมาระบาดอีกครั้งหนึ่ง เป็นการระบาดของคลัสเตอร์ หรือ กลุ่มก้อนสถานบันเทิงใน กทม. ทำให้คนไทยต้องหันกลับมาตั้งการ์ดแน่นๆอีกครั้ง หลายๆคนมีความกังวลว่า “เราติดโควิด” แล้วหรือยัง เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมีอัพเดทอาการของโควิด 19 อีกครั้ง ว่ามันเป็นยังไง ก่อนที่จะเดินทางเที่ยวในช่วงวันสงกรนานต์ ถ้าหากใครที่มีการเดินทางไปยังสถานที่เสี่ยง หรือว่ามีอาการที่เข้าข่ายว่าจะติดโควิด ต้องรีบไปพบแพทย์ด่วน

เช็งสุดๆเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวแล้วแท้ๆ แต่กลับเจอสถานการณ์หนักๆอย่างการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ที่มันแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว แถมการแพร่ระบาดครั้งนี้ ยังเป็นการระบาดก่อนช่วงวันหยุดยาวอย่างวันสงกรานต์ 2564 ของเราอีกด้วย ใครที่รู้ตัวเองว่าได้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวเสี่ยงๆอย่าง ย่านทองหล่อ, เอกมัย และ รัชดา แนะนำให้รีบสังเกตตัวเองให้ดีๆเลย ว่ามีอาการโควิด รึเปล่า ปัจจุบันการติดเชื้อโควิด 19 มันมีอาการที่แตกต่างไปจากเมื่อก่อน บางคนไม่แสดงอาการ เพราะฉะนั้น เราไปอัพเดทอาการโควิด รอบใหม่กันว่ามันเป็นยังไง

วันนี้ทางเราได้มีการรวบรวมข้อมูล และ บทสรุปของอาการป่วย จากการติดเชื้อไวรัส ที่สามารถทำให้เกิดโรคที่คล้ายๆกัน มาให้ผู้อ่านได้ ทำความเข้าใจกันอีกครั้ง เพื่อเป็นการแยกยะว่าแบบไหนที่เรียกว่าเข้าข่ายอาการโควิด เพื่อที่จะสามารถรับมือกับมันได้อย่างรวดเร็ว และรีบไปหาหมอเพื่อจรวจหาเชื้อไวรัสได้ทัน สำหรับอาการป่วยของ COVID-19 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่าง

จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่สามารถรับรสได้

อีกหนึ่งอาการสำหรับคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถสังเกตุอาการตัวเองได้ อาการนี้เป็นอาการเดียวกับ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจโดยจะมีการแสดงอาการที่มีระดับความรุนแรงน้อย ไปจนถึงรุนแรงมาก เริ่มตั้งแต่อาการคัดจมูก, เจ็บคอ, ไอ และ มีไข้ สำหรับบางราย ที่มีอาการรุนแรง อาจจะมีอาการปอดบวม และมีอาการหายใจลำบาก อาการที่พบบ่อยที่สุด จะเป็นอาการที่มีไข้ ติดต่อกัน 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน ไอแห้ง, หอบหายใจแล้วเหนื่อย, ไอมีเสมหะ, หายใจไม่สะดวก, เจ็บคอ, ปวดหัว, ลิ้นไม่รับรส และ จมูกไม่สามารถรับกลิ่นได้

จากการตรวจสอบข้อมูล ที่เคยออกประกาศ ในหัวข้อ การแนะนำเรื่องการสูญเสียการได้กลิ่นในผู้ป่วย COVID-19 ได้มีการระบุเอาไว้ในงานวิจัย และ รายงานของผู้ป่วยที่สูงมากขึ้น เกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างอาการสูญเสียการได้กลิ่น ตามรายละเอียดด้านล่าง

• ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ที่มีผลตรวจเป็นบวก พบว่ามีอาการสูญเสียการได้กลิ่น 2 ใน 3
• ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด มีอาการอื่นผสมอยู่ด้วย เช่น มีไข้, ไอ, เจ็บคอ, คัดจมูก, น้ำมูกไหล ซึ่งพบว่ามีอาการสูญเสียการได้กลิ่น ซึ่งเป็นอาการหลักถึง 30%

จากการตรวจสอบลึกลงไป ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วยว่า อาการติดเชื้อไวรัสโควิด มีความแตกต่างของอาการ โควิด-19 ในเด็ก และ ผู้ใหญ่ คือเด็กจะมีอาการน้อยกว่า ตามรายละเอียดด้านล่าง

• อาการโควิดที่เกิดขึ้นในเด็ก ร้อยละ 42% จะมีอาการไข้, ร้อยละ 49% จะมีอาการไอ, ร้อยละ 8% มีน้ำมูก และ ร้อยละ 7% มีอาการอ่อนเพลีย
• อาการโควิดสำหรับผู้ใหญ่ ร้อยละ 89% จะมีอาการไข้, ร้อยละ 68% จะมีอาการไอ เป็นอาการหลัก, ร้อยละ 14% จะมีอาการเจ็บคอ, ร้อยละ 15% จะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ, ร้อยละ 5% มีน้ำมูก, ร้อยละ 38% มีอาการอ่อนเพลีย

นอกจากนี้ยังมีรายงานออกมาด้วยว่า ช่วงอายุของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีผลต่ออัตราการเสียชีวิต ตามรายละเอียดด้านล่าง

• กลุ่มอายุตั้งแต่ 10-19 ปี มีโอกาสต่ำมาก
• กลุ่มอายุตั้งแต่ 50-59 ปี มีโอกาสเสี่ยงสูง
• กลุ่มอายุ 80 ปี ขึ้นไป มีความเสี่ยงสูงมาก และ มีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก ผู้ป่วยที่อยู่ช่วงอายุนี้ 100 คน จะมีอัตราเสียชีวิต 15 คน