ยื่นภาษีออนไลน์ประจำปี 2568: ขั้นตอนและคำแนะนำสำหรับผู้เสียภาษี
การยื่นภาษีเป็นหน้าที่สำคัญของประชาชนที่มีรายได้ในแต่ละปี และการยื่นภาษีออนไลน์กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในยุคดิจิทัล ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และลดความยุ่งยากที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปสำนักงานสรรพากร บทความนี้จะอธิบายวิธีการยื่นภาษีออนไลน์ประจำปี 2568 ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการส่งแบบฟอร์มเสร็จสมบูรณ์
1. ทำไมต้องยื่นภาษีออนไลน์?
การยื่นภาษีออนไลน์ (e-Filing) มีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับการยื่นแบบดั้งเดิม:
- สะดวกและรวดเร็ว: สามารถยื่นได้ทุกที่ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง
- ขยายเวลายื่น: กรมสรรพากรขยายกำหนดเวลาสำหรับการยื่นออนไลน์จาก 31 มีนาคม 2568 เป็น 8 เมษายน 2568
- ลดการใช้เอกสาร: การกรอกข้อมูลออนไลน์ไม่ต้องใช้กระดาษ ลดความเสี่ยงเอกสารสูญหาย
- ประหยัดเวลา: ไม่ต้องเดินทางไปสำนักงานสรรพากร
2. ใครต้องยื่นภาษี?
บุคคลที่มีรายได้ในปี 2566 และเข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้ จำเป็นต้องยื่นภาษี:
- พนักงานประจำ: รายได้รวมเกิน 120,000 บาท/ปี (สำหรับผู้ไม่มีคู่สมรส) หรือ 220,000 บาท/ปี (สำหรับผู้มีคู่สมรส)
- เจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ: มีรายได้เกิน 60,000 บาท/ปี
- รายได้จากแหล่งอื่น ๆ: เช่น รายได้จากดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า การขายอสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุน
แม้ว่ารายได้จะไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด คุณยังสามารถยื่นภาษีเพื่อแสดงสถานะทางการเงินและสิทธิขอคืนภาษีได้
3. ขั้นตอนการยื่นภาษีออนไลน์
การยื่นภาษีออนไลน์ผ่านระบบ e-Filing ของกรมสรรพากร สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียง 5 ขั้นตอนดังนี้:
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมเอกสาร
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ): ออกโดยนายจ้างหรือลูกค้าผู้ว่าจ้าง
- เอกสารลดหย่อนภาษี: เช่น ค่าลดหย่อนบุตร คู่สมรส ดอกเบี้ยบ้าน หรือเงินบริจาค
- ข้อมูลการลงทุน: เช่น รายการซื้อขายกองทุนรวม SSF/RMF หรือ LTF
- หลักฐานรายได้อื่น ๆ: เช่น รายได้จากการเช่า การขายสินทรัพย์ หรือเงินปันผล
ขั้นตอนที่ 2: สมัครหรือเข้าสู่ระบบ e-Filing
- เข้าไปที่เว็บไซต์ กรมสรรพากร
- คลิกที่เมนู “ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (e-Filing)”
- หากยังไม่มีบัญชีผู้ใช้งาน ให้ลงทะเบียนด้วยเลขบัตรประชาชน และตั้งรหัสผ่าน
ขั้นตอนที่ 3: เลือกแบบฟอร์มที่เหมาะสม
- ภ.ง.ด.90: สำหรับผู้ที่มีรายได้หลายประเภท เช่น รายได้จากการลงทุน ค่าเช่า หรือรายได้อื่น ๆ
- ภ.ง.ด.91: สำหรับผู้ที่มีรายได้จากเงินเดือนเพียงอย่างเดียว
- ระบบจะแนะนำแบบฟอร์มที่เหมาะสมเมื่อคุณระบุประเภทของรายได้
ขั้นตอนที่ 4: กรอกข้อมูลรายได้และค่าลดหย่อน
- กรอกรายได้ทั้งหมดที่ได้รับในปี 2567 ตามเอกสาร 50 ทวิ
- ระบุรายการลดหย่อน เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว บุตร คู่สมรส หรือดอกเบี้ยบ้าน
- ระบบจะคำนวณภาษีที่ต้องชำระหรือขอคืนโดยอัตโนมัติ
ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบและยื่นแบบ
- ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดก่อนกดยื่นแบบ
- ระบบจะแสดงยอดภาษีที่ต้องชำระหรือจำนวนเงินที่ขอคืน
- ชำระภาษีผ่าน e-Payment (ธนาคาร, QR Code, หรือแอปพลิเคชันธนาคาร)
4. ค่าลดหย่อนและสิทธิประโยชน์ที่ควรใช้ในปี 2568
การใช้สิทธิค่าลดหย่อนอย่างถูกต้องช่วยลดภาระภาษีได้มาก โดยค่าลดหย่อนสำคัญในปี 2568 ได้แก่:
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว: 60,000 บาท
- คู่สมรสไม่มีรายได้: 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนบุตร: 30,000 บาท/คน (บุตรคนที่ 2 เป็นต้นไป ลดเพิ่ม 60,000 บาท/คน)
- ดอกเบี้ยบ้าน: สูงสุด 100,000 บาท
- กองทุน SSF/RMF: ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของรายได้ (ไม่เกิน 200,000 บาท)
- เงินบริจาค: ลดหย่อนได้ 2 เท่า (ในบางกรณี เช่น เงินบริจาคเพื่อการศึกษา)
5. วันกำหนดยื่นภาษี
- การยื่นภาษีรายได้ประจำปี 2568 (รายได้ปี 2567)
- ยื่นด้วยตนเอง: ภายใน 31 มีนาคม 2568
- ยื่นออนไลน์: ขยายเวลาได้ถึง 8 เมษายน 2568
6. คำแนะนำเพิ่มเติม
- เก็บหลักฐานทุกอย่าง: เพื่อใช้ในกรณีกรมสรรพากรตรวจสอบย้อนหลัง
- เริ่มต้นยื่นแต่เนิ่น ๆ: ลดความเสี่ยงระบบล่มในช่วงใกล้วันหมดเขต
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: ติดต่อ Call Center กรมสรรพากรที่เบอร์ 1161
การยื่นภาษีออนไลน์ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและลดความยุ่งยาก หากคุณเตรียมเอกสารและปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้น คุณจะสามารถยื่นภาษีประจำปี 2568 ได้อย่างราบรื่นและถูกต้อง!