
ทำอย่างไรเมื่อโดนมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน: แนวทางและขั้นตอนในการติดตามเงินคืน
เมื่อโดนมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน สิ่งสำคัญที่สุดคือการดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะยิ่งเริ่มดำเนินการเร็วเท่าไร โอกาสในการติดตามเงินคืนก็จะยิ่งมากขึ้น แม้ว่ากระบวนการจะใช้เวลาและความพยายาม แต่การทำตามขั้นตอนเหล่านี้อาจช่วยให้สามารถติดตามเงินคืนหรือได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายได้
1. รวบรวมหลักฐานและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
การรวบรวมข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้น โดยสิ่งที่ควรเตรียมรวบรวมมีดังนี้:
- หลักฐานการโอนเงิน: รวมถึงสลิปโอนเงิน ภาพหน้าจอจากแอปพลิเคชันธนาคาร หรือข้อมูลการโอนเงินที่มีระบุจำนวนเงิน วันที่และเวลาที่โอน
- ข้อมูลบัญชีปลายทาง: ชื่อบัญชี เลขที่บัญชีธนาคารปลายทาง หมายเลขโทรศัพท์ ชื่อผู้ติดต่อ หรือบัญชีโซเชียลมีเดียที่มิจฉาชีพใช้ในการติดต่อ
- บันทึกการสนทนา: เช่น ข้อความแชทหรืออีเมลที่ใช้ในการสนทนาเกี่ยวกับการโอนเงิน การบันทึกข้อความที่ได้รับหรือส่งถือเป็นหลักฐานสำคัญในการแจ้งความ
การเก็บหลักฐานนี้จะเป็นขั้นตอนแรกและขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการดำเนินคดีกับมิจฉาชีพ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
2. เช็คข้อมูลมิจฉาชีพ
1. ตรวจสอบรายชื่อผ่าน Google วิธีง่ายที่สุดที่หลายๆคนอาจมองข้าม ค้นหาบน Google เพียงแค่นำชื่อคนขาย หรือชื่อของเจ้าของบัญชีไปก็จะมีรายละเอียดเตือนภัยว่า บัญชีนี้เคยมีประวัติอย่างไรบ้าง
2. ตรวจสอบรายชื่อผ่าน Social Media ต่าง ๆ อย่างเช็คชื่อในเฟสบุ๊ค หรือเว็ปต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถเช็กได้ เพราะผู้ใช้งาน Social Media ที่เคยตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ จะมีการนำข้อมูลมาแชร์หรือโพสต์เตือนภัยไว้ตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ
3. เช็กผ่านเว็บไซต์ “Blacklistseller”
3. ติดต่อธนาคารทันทีหลังจากที่พบว่าถูกหลอก
- แจ้งธนาคารของคุณ: รีบติดต่อธนาคารที่คุณโอนเงินไปและแจ้งว่าถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงิน โดยอาจส่งข้อมูลหลักฐานที่มีเพื่อให้ธนาคารตรวจสอบและระงับการทำธุรกรรมของบัญชีปลายทางในทันทีหากยังไม่สามารถถอนเงินออกไปได้
- สอบถามขั้นตอนการขอเงินคืน: ธนาคารบางแห่งอาจมีขั้นตอนการขอเงินคืนในกรณีที่ถูกหลอกลวง ดังนั้นควรสอบถามขั้นตอนและการดำเนินการที่จำเป็น โดยทั่วไปแล้ว ธนาคารอาจไม่สามารถดึงเงินกลับมาให้ได้หากมิจฉาชีพถอนเงินออกไปแล้ว แต่ในบางกรณีธนาคารสามารถช่วยตรวจสอบและติดตามให้ได้
4. แจ้งความกับสถานีตำรวจ
- เดินทางไปยังสถานีตำรวจและแจ้งเรื่องการถูกหลอกลวง โดยนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดไปด้วยเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถลงบันทึกประจำวันได้ทันที
- ขอให้เจ้าหน้าที่ออกเอกสารบันทึกการแจ้งความ ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดี และใช้เป็นหลักฐานยื่นคำร้องกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือในการติดตามเงินคืน
- โทร 1441 AOC (Anti Online Scam Operation Center) เพื่ออายัดบัญชีคนร้าย รับเคสไอดี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ภายใน 3 วัน
- เตรียมพยานหลักฐาน เช่น การสนทนา บัญชีคนร้าย หรือหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- นำพยานหลักฐานยื่นไปพนักงานสืบสวนดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อออกหมายจับคนร้าย
5. ติดต่อศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.)
- ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) มีอำนาจในการดำเนินการเกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งสามารถช่วยประสานงานและอายัดบัญชีมิจฉาชีพได้
- ติดต่อ ศปอส.ตร. ได้ทางสายด่วน 1441 หรือ 191 เพื่อขอความช่วยเหลือและคำแนะนำในกรณีที่ถูกหลอกลวงผ่านทางออนไลน์
- เจ้าหน้าที่ของศูนย์จะประสานงานกับธนาคารเพื่ออายัดบัญชีปลายทางของมิจฉาชีพทันทีหากยังมีเงินอยู่ในบัญชี รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินคดี
6. ติดต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
- ปปง. มีหน้าที่ในการดูแลและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ซึ่งรวมถึงการอายัดเงินที่ถูกหลอกลวงไปในบางกรณีด้วย
- ยื่นคำร้องที่สำนักงาน ปปง. หรือผ่านเว็บไซต์ของ ปปง. โดยกรอกข้อมูลตามขั้นตอน พร้อมแนบหลักฐานการโอนเงินเพื่อขอให้พิจารณาอายัดบัญชีปลายทางของมิจฉาชีพ และตรวจสอบการทำธุรกรรม
7. ติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
- ติดต่อธนาคาร ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ ปปง. อย่างสม่ำเสมอเพื่อติดตามความคืบหน้า และขอให้หน่วยงานช่วยเหลือตรวจสอบความเคลื่อนไหวในบัญชีของมิจฉาชีพ
- เก็บหลักฐานการติดตามทั้งหมด เช่น การติดต่อธนาคาร เอกสารจากตำรวจและ ปปง. เพื่อใช้ในการติดตามเรื่องต่อไปในกรณีที่ต้องการฟ้องร้องเรียกร้องเงินคืน
วิธีป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ
- ตรวจสอบบัญชีผู้รับโอนก่อนทำการโอนเงิน: หากเป็นบัญชีที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือบัญชีบุคคลที่ไม่คุ้นเคย ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนเสมอ และหาข้อมูลในระบบสาธารณะหากเป็นไปได้
- ระวังข้อเสนอหรือข้อตกลงที่น่าสงสัย: การหลอกลวงมักมาในรูปแบบข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง หรือการเรียกร้องเงินที่เร่งรีบ ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนทำธุรกรรมเสมอ
- ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลที่ไม่รู้จัก: โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญ เช่น เลขที่บัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรประชาชน หรือรหัสผ่านทางออนไลน์
การติดตามเงินคืนจากการโดนหลอกโอนเงินอาจใช้เวลาและความพยายาม แต่หากปฏิบัติตามขั้นตอนและติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ โอกาสในการได้คืนเงินหรือสามารถดำเนินการตามกฎหมายก็จะเพิ่มขึ้น