การบวชในศาสนาอิสลามในช่วงรอมฎอน 68

การบวช (ศิยาม) ในศาสนาอิสลามถือเป็นหนึ่งในห้าเสาหลักของศาสนา และเป็นศาสนกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนที่เก้าของปฏิทินอิสลามและถือว่าเป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวมุสลิมทั่วโลก ช่วงเวลานี้เป็นช่วงแห่งการเสริมสร้างความศรัทธา การขัดเกลาจิตใจ และการทำความดีตามหลักคำสอนของศาสนาอิสลามง

ตามประกาศของจุฬาราชมนตรี ได้เชิญชวนพี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศร่วมดูดวงจันทร์ในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1446 หากมีผู้เห็นดวงจันทร์ในวันดังกล่าว วันที่ 1 เดือนรอมฎอนจะตรงกับวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 แต่หากไม่มีผู้เห็นดวงจันทร์ วันที่ 1 เดือนรอมฎอนจะเลื่อนไปเป็นวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม 2568

ดังนั้น การเริ่มต้นการถือศีลอดในปี 2568 จะขึ้นอยู่กับผลการดูดวงจันทร์ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568

ความหมายและหลักการของการบวชในอิสลาม

การบวชในอิสลามเรียกว่า “ศิยาม” (صيام) หมายถึง การงดเว้นจากอาหาร เครื่องดื่ม การมีเพศสัมพันธ์ และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมตั้งแต่รุ่งอรุณจนถึงตะวันตกดิน การบวชไม่ได้เป็นเพียงการงดอาหารและน้ำดื่มเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการละเว้นจากคำพูดและการกระทำที่ไม่ดี เช่น การโกหก การนินทา และการแสดงอารมณ์ที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อฝึกฝนความอดทน ความมีวินัย และเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับอัลลอฮ์

ความสำคัญของการบวชในเดือนรอมฎอน

เดือนรอมฎอนมีความสำคัญในหลายแง่มุม เช่น:

  1. เป็นเดือนแห่งการประทานอัลกุรอาน – ชาวมุสลิมเชื่อว่าเดือนรอมฎอนเป็นช่วงเวลาที่พระเจ้าประทานอัลกุรอานลงมายังศาสดามุฮัมมัด
  2. เป็นโอกาสในการชำระจิตใจ – การบวชช่วยให้ชาวมุสลิมฝึกฝนตนเองให้เป็นคนดี มีความอดทนและมีจริยธรรมที่ดีขึ้น
  3. เสริมสร้างความสัมพันธ์กับอัลลอฮ์ – เป็นโอกาสให้ชาวมุสลิมเพิ่มพูนการทำอิบาดะฮ์ (การปฏิบัติศาสนกิจ) เช่น การละหมาด การขอพร และการอ่านอัลกุรอาน
  4. ส่งเสริมความเมตตาและการให้ – เดือนรอมฎอนเป็นช่วงเวลาที่มุสลิมถูกกระตุ้นให้บริจาคทานและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส

ข้อกำหนดและเงื่อนไขของการบวช

การบวชในเดือนรอมฎอนเป็นข้อบังคับสำหรับชาวมุสลิมที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:

  • เป็นมุสลิม
  • บรรลุนิติภาวะ
  • มีสุขภาพแข็งแรง
  • ไม่อยู่ในช่วงการเดินทางไกล
  • ไม่อยู่ในช่วงมีประจำเดือนหรือหลังคลอด (สำหรับสตรี)

หากบุคคลใดมีเหตุผลที่ไม่สามารถบวชได้ตามข้อกำหนดข้างต้น อิสลามอนุญาตให้มีการเลื่อนหรือชดเชยในภายหลัง หรือในบางกรณีสามารถบริจาคอาหารให้แก่ผู้ยากไร้แทนได้

กิจวัตรสำคัญในช่วงรอมฎอน

  1. ซุฮูร (Suhoor) – มื้ออาหารก่อนรุ่งอรุณ เป็นอาหารที่ช่วยให้มีพลังงานเพียงพอสำหรับการถือศีลอดทั้งวัน
  2. การงดเว้นจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม – เช่น การพูดเท็จ การทะเลาะวิวาท และการกระทำที่เป็นบาป
  3. อิฟตาร (Iftar) – มื้ออาหารหลังตะวันตกดิน ซึ่งมักเริ่มต้นด้วยอินทผลัมและน้ำก่อนที่จะรับประทานอาหารหลัก
  4. การละหมาดตะรอวีห์ (Tarawih) – เป็นการละหมาดพิเศษที่ปฏิบัติในช่วงกลางคืนของเดือนรอมฎอน
  5. การอ่านอัลกุรอาน – เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการศึกษาคำสอนของศาสนาอิสลาม
  6. การบริจาคทาน (ซะกาตและซอดาเกาะฮ์) – เป็นการช่วยเหลือผู้ยากไร้และสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันในสังคม

ประโยชน์ของการบวชในเดือนรอมฎอน

  1. เสริมสร้างความตระหนักทางจิตวิญญาณ – ทำให้ผู้บวชมีความใกล้ชิดกับอัลลอฮ์มากขึ้น
  2. ฝึกความอดทนและวินัย – การงดเว้นจากสิ่งที่ต้องการเป็นการฝึกความแข็งแกร่งของจิตใจ
  3. เสริมสร้างสุขภาพ – มีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าการถือศีลอดสามารถช่วยล้างพิษในร่างกายและส่งเสริมสุขภาพที่ดีขึ้น
  4. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวและสังคม – การละศีลอดและการทำกิจกรรมร่วมกันในเดือนนี้ช่วยให้เกิดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากขึ้น

สรุป

การบวชในเดือนรอมฎอนเป็นช่วงเวลาสำคัญของชาวมุสลิมที่ไม่เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามหลักศาสนา แต่ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเองทั้งทางร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมความเมตตาและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในสังคม การบวชจึงเป็นมากกว่าการงดอาหาร แต่เป็นการฝึกฝนคุณธรรมและความศรัทธาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น