อัพเดตหลักเกณฑ์เบี้ยผู้สูงอายุ 2566 เงินออกวันไหน ลงทะเบียนยังไง มีเงื่อนไขดังนี้
จากกรมกิจการผู้สูงอายุ ได้ออกประกาศเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปีนี้ สำหรับเบี้ยผู้สูงอายุรายเดิมยังคงได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาต่อเหมือนเดิม แต่สำหรับเบี้ยผู้สูงอายุรายใหม่ที่กำลังจะลงทะเบียนหรือกำลังรอพิจารณารับสิทธิ์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปีนี้ต้องรอเงื่อนไขใหม่จากทางคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติจะกำหนดและแจ้งออกมา
หลักเกณฑ์อัตราการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปัจจุบัน จะมีให้กับผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ไว้แล้ว โดยมีเงื่อนไขหลักเกณฑ์เบื้องต้นคือ จะต้องผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และจะแบ่งช่วงอายุในการจ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุตามขั้นบันไดของอายุ ซึ่งมีตามขั้นดังนี้
- ผู้สูงอายุ ช่วงอายุ 60 – 69 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 600 บาท/คน/เดือน
- ผู้สูงอายุ ช่วงอายุ 70 – 79 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 700 บาท/คน/เดือน
- ผู้สูงอายุ ช่วงอายุ 80 – 89 ปี จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 800 บาท/คน/เดือน
- ผู้สูงอายุ อายุ 90 ปี ขึ้นไป จะได้รับเบี้ยยังชีพ อัตรา 1,000 บาท/คน/เดือน
คุณสมบัติของผู้สูงอายุ
สำหรับผู้สูงอายุที่จะสามารถได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ ต้องมีคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งได้ยืนยันสิทธิของรับเบี้ยผู้สูงอายุต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- เป็นผู้ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด
หลักฐานในการลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ
สำหรับผู้สูงอายุจะต้องเตรียมหลักฐานประกอบเพื่อใช้ในการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานรัฐที่มีรูปถ่าย อย่าง ใบขับขี่ที่ออกโดยกรมขนส่ง
- ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารในนามผู้มีสิทธิ / ผู้ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ (สำหรับกรณีประสงค์รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านทางธนาคาร)
- ในกรณีที่ผู้สูงอายุไม่สามารถมาลงทะเบียนเองได้ สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำร้องขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้
ช่วงเวลาการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
การลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี โดยแบ่งออกเป็น 2 กรณี
กรณีที่ 1 ผู้สูงอายุที่มีอายุ 59 ปี ยังไม่ 60 ปีบริบูรณ์ สามารถลงทะเบียนตั้งแต่ ต.ค.65-พ.ย.65 และเดือน ม.ค. 66 -ก.ย.66 โดยจะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือนถัดไป เมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
กรณีที่ 2 ผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปและยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพสามารถลงทะเบียนตั้งแต่ ต.ค. 65 – พ.ย. 65 และ ม.ค. 66 – ก.ย.66 และจะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตั้งแต่ต.ค. 2566เป็นต้นไป
ช่องทางการลงทะเบียน
สำหรับช่องทางลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ทุกท่านสามารถติดต่อได้ที่
- กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนที่สํานักงานเขต
- ส่วนภูมิภาค หรือต่างจังหวัด ให้ลงทะเบียนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานเทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่ผู้สูงอายุมีภูมิลำเนา
แน่นอนว่า การรับเบี้ยผู้สูงอายุ มีความจำเป็นเป็นอย่างมาก ที่ผู้สูงอายุทุกท่านต้องลงทะเบียน เพื่อให้ได้รับเบี้ยยังชีพรายเดือนให้ครบทุกท่าน เพื่อความเป็นอยู่ และการใช้จ่ายให้ง่ายขึ้น มีเงินในกระเป๋ากันทุกคน ถึงแม้จะไม่ใช่ยอดเงินที่สูง แต่สำหรับบางคน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ สามารถทำให้อิ่มท้องไปอีกหลายมื้อ