ผ่านแล้ว!! ร่างพ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม LGBTQIAN+ มีสิทธิอะไรบ้าง ?

เมื่อวานนี้ 18 มิถุนายน 2567 ที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) โหวตผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หรือ “ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม” เป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญเป็นอย่างมากของการสมรสเท่าเทียม และตอนนี้ทุกคนก็ได้เฮกัน ผ่านร่างพ.ร.บ.แล้ว หลังจากนี้ มีขั้นตอนส่งร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ไปยัง ครม. และนายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยจะมีผลใช้บังคับ หลังกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 120 วัน หรือประมาณช่วงปลายปี 2567

สมรสเท่าเทียม คืออะไร ?

สมรสเท่าเทียม (Equal Marriage) หมายถึงการที่ทุกคนมีสิทธิ์ในการสมรสและสร้างครอบครัวโดยไม่ถูกจำกัดด้วยเพศหรือเพศวิถีของคู่สมรส ซึ่งหมายความว่าคู่รักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้อย่างถูกกฎหมายเช่นเดียวกับคู่รักต่างเพศ

การสมรสเท่าเทียมเป็นการยอมรับและให้สิทธิ์เสรีภาพแก่คู่รักทุกคู่โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นการสนับสนุนความเสมอภาคในสังคม และยังเป็นการส่งเสริมสิทธิพื้นฐานของมนุษย์ในการเลือกคู่ครองและการสร้างครอบครัวตามที่ตนเองต้องการ

หลายประเทศทั่วโลกได้ออกกฎหมายเพื่อรองรับการสมรสเท่าเทียม ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมที่เปิดกว้างและเคารพในความหลากหลายทางเพศ

LGBTQIAN+ คืออะไร ?

LGBTQIAN+ เป็นคำที่ใช้เพื่ออธิบายกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ คำนี้เป็นการรวบรวมกลุ่มคนที่มีความหลากหลายในเรื่องของเพศสภาพและเพศวิถี โดยอักษรย่อแต่ละตัวมีความหมายดังนี้:

  • L (Lesbian): หญิงที่มีความรู้สึกทางเพศและความรักต่อหญิงอื่น
  • G (Gay): ชายที่มีความรู้สึกทางเพศและความรักต่อชายอื่น คำว่า “เกย์” ยังสามารถใช้ได้กับทุกเพศที่มีความรู้สึกทางเพศต่อเพศเดียวกัน
  • B (Bisexual): คนที่มีความรู้สึกทางเพศและความรักต่อทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม
  • T (Transgender): คนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่ไม่ตรงกับเพศที่เกิดมา เช่น ชายที่เกิดมาในร่างกายหญิง หรือหญิงที่เกิดมาในร่างกายชาย
  • Q (Queer/Questioning): คำว่า “Queer” เป็นคำที่ใช้เพื่อรวมกลุ่มคนที่ไม่ตรงกับบรรทัดฐานทางเพศหรือเพศวิถี คำว่า “Questioning” หมายถึงคนที่กำลังสำรวจหรือไม่แน่ใจในเพศสภาพหรือเพศวิถีของตนเอง
  • I (Intersex): คนที่มีลักษณะทางกายวิภาคที่ไม่ตรงกับการจำแนกเพศหญิงหรือเพศชายตั้งแต่กำเนิด
  • A (Asexual/Allies): “Asexual” หมายถึงคนที่ไม่มีความรู้สึกทางเพศหรือมีความรู้สึกทางเพศน้อยมาก “Allies” หมายถึงผู้สนับสนุนและเพื่อนของกลุ่ม LGBTQIAN+
  • N (Non-binary): คนที่ไม่ระบุเพศของตนเองว่าเป็นชายหรือหญิง แต่เป็นเพศที่อยู่นอกเหนือจากเพศที่กำหนดไว้ตามบรรทัดฐานทางสังคม
  • +: สัญลักษณ์บวก (+) ใช้เพื่อรวมกลุ่มเพศสภาพและเพศวิถีอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุในอักษรย่อข้างต้น เพื่อแสดงความครอบคลุมและเปิดกว้าง

การใช้ LGBTQIAN+ เป็นการแสดงถึงความหลากหลายและความซับซ้อนของอัตลักษณ์ทางเพศและเพศวิถี รวมทั้งการสนับสนุนสิทธิและการยอมรับในความแตกต่างเหล่านี้ในสังคม

 

ผ่านแล้ว!! ร่างพ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม LGBTQIAN+ มีสิทธิอะไรบ้าง ?

ผ่านแล้ว!! ร่างพ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม LGBTQIAN+ มีสิทธิอะไรบ้าง ?

ร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียมมีสิทธิอะไรบ้าง ?

  1. สิทธิจดทะเบียนสมรส
  2. สิทธิรับมรดกหากอีกฝ่ายเสียชีวิต
  3. อายุขั้นต่ำในการจดทะเบียนสมรส 18 ปี ขึ้นไป
  4. สิทธิเป็นผู้จัดการแทนในทางอาญา
  5. รับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้
  6. สิทธิเซ็นยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย
  7. สิทธิจัดการศพ
  8. สิทธิจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส
  9. สิทธิรับประโยชน์และสวัสดิการจากรัฐในฐานะคู่สมรส เช่น ประกันสังคม ค่ารักษาพยาบาล
  10. ใช้คำที่เป็นกลางทางเพศ เช่น จาก ชาย หญิง สามี ภรรยา เป็นคู่สมรส บุคคล ผู้หมั้น ผู้รับหมั้น / บิดา มารดา เป็นบุพการี

ประวัติสมรสเท่าเทียม LGBTQIAN+

การต่อสู้เพื่อสิทธิในการสมรสเท่าเทียมสำหรับกลุ่ม LGBTQIAN+ มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและซับซ้อน ในหลายประเทศทั่วโลก การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในการสมรสเริ่มจากการต่อสู้เพื่อการยอมรับและสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน จนกระทั่งการสมรสเท่าเทียมกลายเป็นจริงในบางส่วนของโลก ประวัติศาสตร์การสมรสเท่าเทียมสามารถสรุปได้เป็นลำดับเหตุการณ์ดังนี้:

ยุคก่อนศตวรรษที่ 20

  • ในหลายวัฒนธรรมโบราณ เช่น กรีกและโรมัน มีการยอมรับรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกันในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถือเป็นการสมรสทางกฎหมาย
  • การเปลี่ยนแปลงทางศาสนาและสังคมในยุโรปยุคกลางนำไปสู่การกดดันและลงโทษความสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกัน

ศตวรรษที่ 20

  • 1950s-1960s: เริ่มมีการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเกย์และเลสเบี้ยน โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป การประท้วงครั้งสำคัญเกิดขึ้นในปี 1969 ที่ Stonewall Inn ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ+
  • 1970s-1980s: การต่อสู้เพื่อสิทธิในการสมรสเริ่มต้นขึ้น กลุ่มนักเคลื่อนไหวเริ่มเรียกร้องให้มีการยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกันในทางกฎหมาย

ศตวรรษที่ 21

  • 2001: ประเทศเนเธอร์แลนด์กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ยอมรับการสมรสเพศเดียวกันอย่างถูกกฎหมาย
  • 2003: ศาลสูงสุดของรัฐแมสซาชูเซตส์ในสหรัฐอเมริกาตัดสินให้การห้ามการสมรสเพศเดียวกันขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทำให้รัฐแมสซาชูเซตส์กลายเป็นรัฐแรกในสหรัฐที่ยอมรับการสมรสเพศเดียวกัน
  • 2010s: การสมรสเท่าเทียมได้รับการยอมรับในหลายประเทศทั่วโลก เช่น แคนาดา (2005), สเปน (2005), นอร์เวย์ (2009), สวีเดน (2009), โปรตุเกส (2010), อาร์เจนตินา (2010), เดนมาร์ก (2012), อุรุกวัย (2013), นิวซีแลนด์ (2013), ฝรั่งเศส (2013), สหราชอาณาจักร (2014), สหรัฐอเมริกา (2015), ไอร์แลนด์ (2015), ออสเตรเลีย (2017), ไต้หวัน (2019)
  • 2020s: หลายประเทศในเอเชียและอเมริกาใต้เริ่มมีการเคลื่อนไหวและผลักดันการสมรสเท่าเทียม โดยบางประเทศก็มีความก้าวหน้าในด้านนี้ เช่น ชิลี (2021)

การสมรสเท่าเทียมในประเทศไทย

  • ในประเทศไทย การเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในการสมรสของกลุ่ม LGBTQ+ มีมาเป็นเวลานาน และได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในช่วงปี 2020-2021
  • ในปี 2021 รัฐสภาไทยได้รับการพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับการสมรสเท่าเทียมและการจดทะเบียนคู่ชีวิต ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการรับรองสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ ในประเทศ
  • 18 มิถุนายน 2567 ที่ประชุมวุฒิสภา (สว.) โหวตผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หรือ “ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม” หลังจากนี้ มีขั้นตอนส่งร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ไปยัง ครม. และนายกรัฐมนตรี นำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยจะมีผลใช้บังคับ หลังกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 120 วัน หรือประมาณช่วงปลายปี 2567

ความสำคัญและผลกระทบ

การยอมรับการสมรสเท่าเทียมเป็นการยืนยันสิทธิพื้นฐานในการเลือกคู่ครองและการสร้างครอบครัว และยังเป็นการลดการเลือกปฏิบัติและเพิ่มความเสมอภาคในสังคม การสมรสเท่าเทียมยังมีผลในด้านกฎหมาย เศรษฐกิจ และสังคมที่เป็นบวกสำหรับกลุ่ม LGBTQIAN+ และสำหรับสังคมโดยรวม