
เทรนด์สี 2025: เมื่อสีบ้านบอกเล่าเรื่องราวแห่งความทันสมัย
แนวโน้มสีประจำปี 2025 นำเสนอเฉดสีที่อบอุ่น มีพลัง และสะท้อนถึงธรรมชาติ ซึ่งเข้ากับบรรยากาศภายในบ้านที่ต้องการความสงบ อบอุ่น และทันสมัย หลายแบรนด์ชั้นนำในอุตสาหกรรมสี เช่น Sherwin-Williams, Benjamin Moore และ Glidden ได้เปิดเผยเฉดสีแห่งปีของตนเอง ซึ่งมีเอกลักษณ์และสอดคล้องกับแนวโน้มการออกแบบที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกผ่อนคลายและบรรยากาศที่เป็นมิตร มาดูกันว่ามีโทนสีไหนบ้างที่น่าจับตามองในปีนี้:
1. เฉดสีแดงเข้มและน้ำตาลอันลึกซึ้ง
เฉดสีแดงเข้มและน้ำตาลกลายเป็นเทรนด์หลัก โดยเฉพาะสี “Rumors” จาก Behr และ “Elderton” ของ Graham & Brown ซึ่งทั้งคู่เน้นสร้างความอบอุ่นให้กับบ้าน สีเหล่านี้ให้ความรู้สึกสงบและเรียบหรู สีแดงอย่าง “Rumors” เพิ่มความรู้สึกแปลกใหม่แต่ไม่ฉูดฉาดเกินไป โดยสามารถใช้ได้ทั้งในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและนุ่มนวล ส่วนเฉดน้ำตาลเข้มอย่าง “Elderton” จาก Graham & Brown จะเป็นเฉดสีที่คงความเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการตกแต่งแบบเรียบง่ายและคลาสสิก
สี “Raku” ของ C2 Paint ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสีน้ำตาลลึกที่มีพื้นหลังแดงอ่อนๆ เพิ่มความรู้สึกสมดุลและสงบ สีน้ำตาลนี้เหมาะกับการใช้งานในห้องพักผ่อนหรือพื้นที่ที่ต้องการความอบอุ่น โดยจะช่วยสร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์สำหรับผู้ที่ต้องการปลอบประโลมใจจากชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ
2. เฉดสีเขียวและเหลืองอ่อนๆ
Sherwin-Williams แบรนด์สีชั้นนำได้เปิดตัว “Kindred” ซึ่งเป็นพาเลตที่ผสมผสานสีเขียวอ่อนและเหลืองเพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่นและเชื่อมโยงระหว่างครอบครัว สีที่โดดเด่นในพาเลตนี้ เช่น “Icy Lemonade” (เหลืองอ่อน) และ “Sun Bleached Ochre” ซึ่งให้บรรยากาศที่อบอุ่นและสดใส โทนสีเขียวก็ถูกใช้เพื่อเน้นความเชื่อมโยงกับธรรมชาติและบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้ห้องครัวหรือพื้นที่รับประทานอาหารดูเป็นธรรมชาติและเป็นกันเองมากขึ้น
3. เฉดสีม่วงและสีสันที่มีชีวิตชีวา
ปีนี้ สีม่วงได้รับความนิยมเป็นพิเศษจากหลายแบรนด์เช่นกัน Glidden เปิดตัว “Purple Basil” ซึ่งเป็นสีม่วงเข้มที่มีความรู้สึกหรูหราและเป็นเอกลักษณ์ สีนี้นำเสนอความโดดเด่นและมีความเป็นคลาสสิก ในขณะที่ Minwax ได้แนะนำสี “Violet” ซึ่งช่วยเติมเต็มบรรยากาศของห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและสร้างสรรค์ เช่น ห้องอ่านหนังสือหรือห้องนั่งเล่น เฉดสีม่วงเหล่านี้ทำให้บ้านดูน่าดึงดูดและยังมีความทันสมัยในการใช้ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์หรือชิ้นงานไม้ได้อย่างลงตัว
4. พาเลตสีที่มีความหลากหลายจาก Sherwin-Williams
Sherwin-Williams ยังได้นำเสนอชุดสีที่เรียกว่า “Colormix Capsule” ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ชุดย่อย คือ Chrysalis, Paradox, Wellspring, และ Kindred แต่ละชุดสีให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน โดย Paradox จะเน้นโทนสีเขียวแบบป่า เช่น “Talipot Palm” และสีชมพูสว่างอย่าง “Dragonfruit” ที่ให้ความรู้สึกสดใส ขณะที่ Chrysalis เน้นสีธรรมชาติที่ทำให้รู้สึกสงบเช่นสีทรายและน้ำตาลอ่อน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งแบบมินิมอลและเรียบง่าย
5. สีชมพูและสีเหลืองที่สว่างและสดใส
นอกจากสีเข้มและสีเอิร์ธโทนแล้ว เทรนด์สีในปีนี้ยังมีสีชมพูสดใสและสีเหลืองที่นำความรู้สึกสดชื่นและสร้างความสนุกสนานให้กับพื้นที่ อย่างสีชมพู “Dragonfruit” และสีเหลือง “Bosc Pear” ซึ่งเหมาะกับการใช้ในพื้นที่ที่เน้นการพักผ่อนหรือเป็นส่วนร่วมของครอบครัว เช่น ห้องรับแขกและห้องครัว เฉดสีเหล่านี้เหมาะกับการเพิ่มความสว่างและทำให้พื้นที่ดูทันสมัยและมีชีวิตชีวา
แนวโน้มสีในปี 2025 สะท้อนถึงการนำความหลากหลายของเฉดสีมาใช้เพื่อสร้างบรรยากาศที่เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคน รวมถึงการเลือกใช้สีที่สะท้อนถึงความอบอุ่นและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับบ้านสมัยใหม่ที่ต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่