5 ช่องทางทำ Affiliate ยอดนิยม สร้างรายได้ออนไลน์: Blog, YouTube, TikTok, Facebook และ LINE

ช่องทางไหนเหมาะกับคุณ? เลือกให้ตรงแล้วรายได้จะมา

ในยุคที่ใคร ๆ ก็สามารถสร้างรายได้จากโลกออนไลน์ “Affiliate Marketing” กลายเป็นทางเลือกที่ทั้งมือใหม่และมือโปรหันมาทำกันมากขึ้น เพราะไม่ต้องลงทุนเยอะ ไม่ต้องผลิตสินค้าเอง และสามารถเริ่มได้ทันทีเพียงแค่มี “ลิงก์” โปรโมตสินค้าให้ถูกคน ถูกที่ ถูกช่องทาง

แต่คำถามคือ แล้วควรทำที่ไหน?

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 ช่องทางยอดนิยมในการทำ Affiliate Marketing ที่คนไทยใช้กันมากที่สุดในปี 2025 พร้อมข้อดี-ข้อเสีย และแนวทางที่เหมาะสมกับแต่ละคน เพื่อให้คุณเลือกช่องทางให้เหมาะกับสไตล์ของตัวเอง

สมัครทำ Affiliate 

 

1. Blog – สายเขียนเนื้อหายาว ทำ SEO กินยาว ๆ

✅ จุดเด่น:

  • สร้างคอนเทนต์ที่ค้นเจอผ่าน Google ได้ (SEO)

  • มีความน่าเชื่อถือสูงเมื่อทำคอนเทนต์เชิงลึก

  • ทำเงินได้แบบ “Passive Income” ถ้าคอนเทนต์ดี

❌ ข้อจำกัด:

  • ใช้เวลาสร้างเนื้อหาและผลลัพธ์อาจไม่รวดเร็ว

  • ต้องเข้าใจพื้นฐาน SEO และการจัดโครงสร้างเนื้อหา

💡 เหมาะกับใคร:

  • คนชอบเขียนบทความ หรือมีทักษะสื่อสารผ่านตัวหนังสือ

  • คนที่อยากปั้นเว็บหรือบล็อกของตัวเองให้มีทราฟฟิกระยะยาว

ตัวอย่างหัวข้อที่ใช้ได้:

  • รีวิวเปรียบเทียบ “มือถือรุ่นไหนดีในงบไม่เกิน 10,000”

  • แนะนำ 10 ไอเทมที่ช่วยให้แม่ลูกอ่อนใช้ชีวิตง่ายขึ้น

2. YouTube – รีวิวเห็นภาพ ขายของด้วยน้ำเสียงและความเชื่อมั่น

✅ จุดเด่น:

  • คอนเทนต์รูปแบบวิดีโอสร้างความเชื่อมั่นได้ดี

  • ยอดวิวจาก YouTube ยังทำเงินจากโฆษณาได้อีกทาง

  • วิดีโอที่มีคุณภาพดีสามารถอยู่ได้นานหลายปี

❌ ข้อจำกัด:

  • ใช้เวลาตัดต่อและเตรียมการผลิต

  • ต้องใช้ทักษะด้านวิดีโอเบื้องต้น

💡 เหมาะกับใคร:

  • คนชอบพูด ชอบรีวิว มีบุคลิกเป็นมิตรกับกล้อง

  • คนที่ต้องการสร้างตัวตน (Personal Brand) ไปพร้อมกับรายได้

ไอเดีย:

  • รีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์ไอที, Gadget

  • รีวิวของใช้บ้าน สินค้าจาก Shopee/TikTok Shop

3. TikTok – สายไวรัล ยอดวิวพุ่งเร็ว เหมาะกับเนื้อหาสั้น กระชับ

✅ จุดเด่น:

  • ปังไว ถ้าโดนใจคนดู

  • ไม่จำเป็นต้องใช้กล้องแพงหรืออุปกรณ์เยอะ

  • เหมาะกับสายรีวิวไว, แจกโค้ด, โปรโมชั่นเด็ด

❌ ข้อจำกัด:

  • คอนเทนต์อายุสั้น ต้องลงบ่อย

  • ต้องเข้าใจอัลกอริทึม และตามเทรนด์ได้ไว

💡 เหมาะกับใคร:

  • คนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบตัดต่อไว ๆ

  • คนที่กล้าแสดงออก กล้ารีวิวของตรงไปตรงมา

คอนเทนต์ที่เวิร์ค:

  • “รีวิวจริง ไม่อวย” แบบสั้น ๆ 15-60 วินาที

  • “สินค้าหลักร้อย ใช้แล้วว้าว” สร้าง curiosity

4. Facebook – ช่องทางเก่าแต่ยังเก๋า เข้าถึงคนไทยได้ทุกวัย

✅ จุดเด่น:

  • คนไทยยังใช้งานสูง โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานขึ้นไป

  • แชร์โพสต์-รีวิวในกลุ่มได้ง่าย

  • ทำคอนเทนต์ได้ทั้งภาพ วิดีโอ และข้อความ

❌ ข้อจำกัด:

  • การมองเห็นอาจลดลงถ้าไม่มีผู้ติดตาม

  • ต้องรู้วิธีสร้าง engagement ให้โพสต์ไปไกล

💡 เหมาะกับใคร:

  • คนที่เคยมีเพจหรือกลุ่มอยู่แล้ว

  • คนที่เข้ากลุ่มเฉพาะทาง เช่น แม่และเด็ก, บ้านและสวน, Gadget

ตัวอย่าง:

  • รีวิวของใช้ในบ้านในกลุ่ม “ของดีบอกต่อ”

  • แนะนำของในโพสต์แบบ carousel (ภาพหลายใบ)

5. LINE – ช่องทางลับของสายปิดการขายเร็ว

✅ จุดเด่น:

  • ปิดการขายได้เร็ว เหมือนส่งต่อในวงใน

  • เหมาะกับการส่งโค้ดลดราคา/โปรแรงแบบเฉพาะกลุ่ม

  • กลุ่มเป้าหมายมีความสนใจเฉพาะชัดเจน (เช่น คนในกลุ่มแม่บ้าน, นักช้อป ฯลฯ)

❌ ข้อจำกัด:

  • เข้าถึงคนใหม่ยาก ต้องสร้างฐานคนติดตามเอง

  • ไม่เหมาะกับคอนเทนต์ยาว ๆ หรือรีวิวละเอียด

💡 เหมาะกับใคร:

  • คนที่ปิดการขายเก่ง

  • คนที่มีฐานผู้ติดตามอยู่แล้ว เช่น กลุ่มเพื่อน กลุ่มลูกค้าประจำ

เทคนิค:

  • สร้าง “กลุ่มเฉพาะทาง” เช่น กลุ่มแจ้งโปร Shopee, กลุ่มของใช้เด็ก ฯลฯ

  • ใช้ Broadcast ช่วยส่งลิงก์ Affiliate พร้อมโปรทันเวลา

สรุป: ช่องทางไหนดีสุด? ขึ้นอยู่กับ “คุณ”

ช่องทาง จุดเด่น เหมาะกับใคร
Blog ยั่งยืน, เล่น SEO สายเขียน คิดลึก
YouTube น่าเชื่อถือ, ทำเงินจากหลายทาง สายพูด มีไอเดีย
TikTok เข้าถึงเร็ว, คนเห็นเยอะ สายไวรัล ทันเทรนด์
Facebook คนไทยใช้เยอะ, แชร์ง่าย สายสร้างกลุ่ม สื่อสารดี
LINE ปิดขายไว, ลูกค้าตรงเป้า สายจัดการกลุ่ม เก่งขาย

สมัครทำ Affiliate ได้ที่นี่ : คลิก

🎯 คำแนะนำสุดท้าย:

อย่ารอให้ “เก่ง” แล้วค่อยเริ่ม ให้ “เริ่ม” แล้วคุณจะเก่งเอง

หากคุณยังไม่รู้จะเริ่มที่ไหน — ให้เริ่มจากช่องทางที่คุณถนัดที่สุด
แล้วค่อยขยายไปช่องทางอื่นเมื่อเริ่มจับจังหวะได้