กลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ สำหรับการทำใบขับขี่ และ ต่ออายุใบขับขี่
กรมการขนส่งทุกแห่งได้กลับมาเปิดให้บริการใบอนุญาตขับรถได้ตามปกติทุกกระบวนงาน แต่มีข้อจำกัดอยู่ที่จำนวนผู้เข้ารับบริการในแต่ละช่วงเวลา สำหรับผู้ที่ทำการจองคิวล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2564 ไปจนถึง 31 มกราคม 2564 และ ผู้ที่จองคิวตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 สำหรับผู้ที่ไม่เคยจองคิวจะเปิดจองปกติในวันที่ 16 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป
เปิดเผยข่าวเกี่ยวกับกรมการขนส่งทางบก ที่เปิดให้ประชาชนสามารถเดินทางไปทำใบขับขี่ และต่ออายุใบขับขี่ทุกชนิด ตามที่ศูนบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19, กระทรวงศึกษาธิการ และ กรุงเทพมหานคร ได้พิจารณาเปิดการเรียนการสอนของสถานศึกษาโดยให้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไปนั้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบกผ่อนคลายการควบคุมการให้บริการด้านใบอนุญาติขับรถเพื่อให้สำนักงานขนส่งทุกแห่ง สามารถกลับมาเปิดให้บริการด้านใบอนุญาตขับรถ และ ผู้ประจำรถได้ตามปกติทุกกระบวนงาน ทั้งการขอรับใบอนุญาตขับรถใหม่ และการต่ออายุใบอนุญาตที่ต้องเข้าอบรมที่สำนักงานขนส่ง สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ด้านล่าง
- ผู้ที่จองคิวเอาไว้ล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 4 มกราคม 2564 ถึง 31 มกราคม 2564 ให้สิทธิเข้าจองคิวใหม่ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 09.00 น. ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2564 ผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือ ผ่านทางเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th ของกรมการขนส่งทางบก
- ผู้ที่จองคิวล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ให้เข้ารับบริการตามวัน และเวลาที่นัดหมายได้ตามปกติ
- ผู้ที่ไม่เคยเข้าระบบจองคิวมาก่อน ให้เริ่มจองคิวตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2564 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือ เว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th ของกรมการขนส่งทางบก
ทางด้านอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป การดำเนินการด้านใบอนุญาตขับรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไขหลักเกณฑ์ใหม่ โดยจะต้องใช้ใบรับรองแพทย์เป็นเอกสารประกอบในการดำเนินการทั้งการขอรับใบอนุญาตขับรถใหม่, การเปลี่ยนชนิด และ การต่ออายุ รวมไปถึงการขอใบรับรองแพทย์ จะต้องเป็นไปตามแบบมาตรฐานของแพทยสภา มีสองส่วน
- ส่วนที่ผู้ขอรับรองสุขภาพตนเอง
- ส่วนของแพทย์ตรวจรับรอง
จะต้องแสดงให้เห็นว่าผู้นั้นไม่มีโรคประจำตัวหรือสภาวะของโรคที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจจะเป็นอันตรายขณะขับรถตามที่แพทยสภากำหนด และเพื่อให้ประชาชนสามารถรับข้อมูลข่าวสารจากทางกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ mot.go.th หรือสายด่วน 1356