ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64

ธนาคารเพื่อการเกษตร และ สหกรณ์การเกษตร เตรียมจ่ายชาวนาเพิ่มอีกวันที่ 9 ธันวาคม นี้

อัพเดทการจ่ายเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตร และ สหกรณ์การเกษตรล่าสุด ประกาศว่าจะมีการเริ่มจ่ายเงินให้กับพี่น้องเกษตรกรในวันที่ 9 ธันวาคม 2563 เพื่อชดเชยส่วนต่างราคา และ ปรับปรุงคุณภาพเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะจัดส่งสินค้าเพื่อชะลอการขาย 1.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็นเงินสูงสุด 7 หมื่นบาทต่อครัวเรือน

เปิดเผยข้อมูลจากทางรองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตร และ สหกรณ์การเกษตร หรือ ธกส. ได้มีการออกมาเปิดเผยจากคณะรัฐมนตรี อนุมัติเพิ่มวงเงินในโครงการประกันรายได้เกษตรกร ผู้ปลูกข้าวในปีการผลิต 2563 /2564 เพิ่มอีกเป็นจำนวน 2.8 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่เคยได้มีการอนุมัติวงเงินไว้ประมาณ 1.8 ล้านบาท ทำให้ครอบคลุมเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศจำนวน 4.56 ล้านครัวเรือน โดยทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้แจ้งว่าพร้อมที่จะจ่ายเงินให้กับชาวนาในงวดที่ 3 วันที่ 9 ธันวาคม 2563 หรือ วันพุธที่จะถึงนี้ คิดเป็นจำนวนเงินโดยประมาณ 2.04 หมื่นล้านบาท ให้กับชาวนาจำนวน 2.4 ล้านราย

สัดส่วนในการชดเชยส่วนต่างของราคาข้าวแต่ละชนิด ที่รัฐบาลจ่ายให้กับพี่น้องชาวนา ตามจำนวนที่ได้กำหนดเพดานการเข้าโครงการประกันรายได้ไว้ให้กับชาวนา ยกตัวอย่างเช่น 

  • ข้าวหอมมะลิครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ต่อครัวเรือน
  • ข้าวเปลือกหอมปุทมธานี ไม่เกิน 25 ตัน ต่อครัวเรือน
  • ข้าวเปลือกเหนียวครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ต่อครัวเรือน

เมื่อคิดจำนวนเงินรวมกับวงเงินสนับสนุนให้เกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวโดยมีการส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตร และ สหกรณ์เป็นผู้ดูแล โดยจะมีทำการจ่ายเงินให้กับพี่น้องชาวนา ในอัตราไร่ละ 5.0 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ มาตรการนี้จะช่วยให้ชาวนาได้เงินเพิ่มอีกประมาณ 10,000 บาทต่อครัวเรือน

ในส่วนของสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือก (จำนำยุ้งฉาง) ซึ่งจะเริ่มให้ชาวนาสามารถเข้าร่วมโครงการได้ในวันที่ 15 ธันวาคม 2563 นี้ จะทำให้ชาวนามีเงินเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง โดยส่วนมากจะนำข้าวมาเข้าโครงการเพื่อชะลอการขายในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำ รายละประมาณ 8-10 ตันข้าวเปลือได้ค่าจำนำข้าวเปลือกตันละ 1,500 บาท มีการคาดการณ์ออกมาว่า จะมีชาวนาที่ได้เงินรวมจากโครงการต่างๆที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สนับสนุนในช่วงปลายปีนี้ เกือบ 7 หมื่นบาทต่อราย ในรายที่ปลูกข้าวหอมมะลิ และ ในส่วนของการปลูกข้าวอื่นๆก็จะลดลงมา

หากช่วงปลายปี 2563 นี้ ราคาข้าวยังไม่ดีขึ้น มีการคาดการณ์ว่า ชาวนาจะนำข้าวมาเข้าโครงการขอสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือก มากกว่า 2 แสนราย ซึ่งในส่วนนี้ ทางธนาคารเพื่อเกษตร และ สหกรณ์การเกษตร ได้เตรียมสินเชื่อเอาไว้จำนวนทั้งสิ้น 15,284 ล้านบาท คาดว่าจะพอเพียงที่จะให้ชาวนาเข้าโครงการ เพื่อช่วยเพิ่มเงินให้กับชาวนา และเป็นโอกาสที่จะให้ชาวนาเก็บข้าวไว้ในยุงฉางไว้รอระบาย ในช่วงที่ราคาข้าวเพิ่มขึ้น