ศบค. ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน (พฤศจิกายน)
- เมื่อวานนี้ (21 ตุลาคม 2563) ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) หรือ ศบค. มีมติต่อพระราชกำหนดฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก. ฉุกเฉินต่ออีก 1 เดือน (วันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2563) แม้ล่าสุดในวันนี้ 22 ตุลาคม 2563 ได้มีการประกาศยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพฯ ก็ตาม (อ่านเพิ่มเติม: ข่าวด่วน! ราชกิจจาฯยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง)
- ทั้งยังได้มีการรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้กฎหมายต่างๆ ซึ่งมีสาระสำคัญ 7 เรื่อง ดังต่อไปนี้
7 สาระสำคัญจากที่ประชุม ศบค.
- การเดินทางเข้ามาในไทยของคณะมนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้เดินทางมาแล้วเรียบร้อยดี
- การอนุญาตให้ลูกเรือสัญชาติบริติชและสัญชาติเชกที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางน้ำเดินทางมาเรียบร้อยแล้ว
- การกำหนดประเทศ และเมืองต้นทางที่ได้รับการผ่อนปรนให้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยการขอรับการตรวจลงตราประเทศของนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) ซึ่งมีการรับนักท่องเที่ยวชุดแรกจากประเทศจีน 39 ราย เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ทั้งหมดยังต้องอยู่ในมาตรการกักตัว 14 วัน ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะอยู่ในประเทศไทยประมาณ 1 เดือน
- อนุญาตให้สายการบินทำการบิน แบบมีผู้โดยสารเปลี่ยนลำได้
- อนุญาตให้เรือยอร์ชเดินทางเข้ามาในไทย ทั้งเรือซุปเปอร์ยอร์ช และเรือครูซเซอร์ ความต้องการเข้ามาในไทย จำนวน 60 ลำ แบ่งเป็น
- ซุปเปอร์ยอร์ช 27 ลำ และ
- เรือครูซเซอร์ 33 ลำ
- รวมคนที่จะเข้ามาประมาณ 600-650 คน
- อนุญาตให้ลูกเรือต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย เพื่อขึ้นเรือออกจากไทยได้ ในกลุ่มนี้หากเข้ามาต้องยอมรับมาตรการกักตัว 14 วัน ก่อนลงเรือเพื่อเดินทางกลับประเทศ
- ผ่อนผันให้กลุ่มบุคคลเข้าประเทศไทยเข้าสู่การกักตัวแบบ Wellness Quarantine จำนวนคนเข้ามาจำนวน 1,428 ราย ซึ่งที่ประชุม ศบค. ได้อนุมัติกลุ่มที่ 1 และ 2 ส่วนกลุ่ม 3 ยังอยู่ในการพิจารณา โดยทางกรมสนับสนุนสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงาน 3 รูปแบบที่จะเข้ามา ได้แก่
- กลุ่มแรก เมดิคอลสปา, Wellness รีสอร์ท และสปารีสอร์ท
- กลุ่มที่สอง ผู้สูงอายุที่มาพักผ่อน และดูแลสุขภาพระยะยาว
- กลุ่มที่สาม กลุ่มพักผ่อนท่องเที่ยวและเล่นกีฬา เช่น มาพักโรงแรมที่มีสนามตีกอล์ฟ