IO คืออะไร ทำไมต้องมีปฎบัติการนี้
กำลังเป็นกระแสอย่างมากบนโลกออนไลน์ สำหรับคำว่า IO ในตอนนี IO เป็นคำย่อมาจาก Information Operation หรือแปลเป็นภาษาไทยง่ายๆว่า ปฎิบัติการข่าวสาร เมื่อก่อนคำนี้ถูกนำมาใช้ในเชิงการชิงความได้เปรียบในการสงคราม โดยหลักการที่สำคัญของ ไอโอ ก็คือการเผยแพร่ความคิด รวมไปถึงความเชื่อของฝ่ายเรา ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบและทำให้เกิดความคิด และคล้อยตามความต้องการของฝ่ายเรานั่นเอง ในขณะเดียวกันก็ต้องหาทางระงับ รวมไปถึงขัดขวาง หรือทำลายศักยภาพทางด้าน ไอโอของฝ่ายตรงข้าม เพื่อไม่ให้สามารถเผยแพร่ความคิดและความเชื่อต่อบุคคลที่เป็นเป้าหมายของฝ่ายเราได้
ขั้นตอนหรือวิธีการเผยแพร่ความคิดที่สามารถส่งถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้สื่อทุกชนิด เพราะฉะนั้นฝ่ายที่ทำ IO ในอดีตจะเป็นฝ่ายรัฐบาล เนื่องจากสามารถคุมสื่อได้ทุกชนิด แต่แตกต่างในปัจจุบัน ที่เรามี โซเชียลมีเดีย (S0cial Media) หรือสื่อสังคมออนไลน์ ที่คนทุกคนสามารถเป็นสื่อ และสามารถผลิตสื่อได้ด้วยตัวเอง ทำให้การปฎิบัติการ ไอโอ ไม่สามารถทำงานได้แบบผูกขาดโดยอยู่ที่ภาครัฐอีกต่อไป
ในปัจจุบันการทำไอโอ ที่ใช้กันทั่วๆไป จะมีหลักการที่สำคัญๆ โดยจะเริ่มหา “Keyword” หรือ “Interesting Point” จุดสนใจเพื่อที่จะใช้สร้างชุดความคิดที่หลากหลายกับฝ่ายตรงข้าม สิ่งที่น่าสนใจ สำหรับการทำ ไอโอให้ประสบความสำเร็จ ก็คือการใช้ความจริงในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพราะว่าถ้าหากใช้ข้อมูลที่โกหก หรือไม่เป็นความจริง อาจจะทำให้ได้ชัยชนะในช่วงแรกๆเท่านั้น แต่แน่นอนว่า ในระยะยาวเกิดปัญหาแน่นอน คำถามที่น่าสนใจนี้ ก็คือหลักการที่ใช้ได้จริง เนื่องจากในยุคปัจจุบัน ข้อมูลข่าวสารต่างๆ บนโลกออนไลน์ของเรานั้นมีเร็วมากๆ อย่างที่เราอาจจะสังเกตุได้ ว่าเราจะเจอ “การปล่อยข้อมูลเท็จ” หรือ “Fake News” อยู่บ่อยๆ
การทำ IO ในยุคที่โซเชียลมีเดียมีอิทธิพล กับประชาชนในยุคปัจจุบันอย่างมาก โดยการทำงานผ่าน Big Data ที่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูล และสามารถนำข้อมูลนั้นๆไปประมวลผล ทำให้ทราบถึงพฤติกรรมของคน, ความชอบ, รสนิยม, ความสนใจ, ความคิด, ความเชื่อ ฯลฯ ซึ่งทำให้ผู้ที่ทำ IO สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาสร้างชุดความคิดเพื่อชี้นำได้ง่ายมากขึ้น เพื่อที่จะสร้างกระแสทำให้เกิดความเชื่อไปในทิศทางเดียวกันของคนหมู่มาก ยกตัวอย่างในปัจจุบันของการทำ IO ก็คือ การติด # (Hashtag) เป็นต้น กระแสไอโอ กลับมาขึ้น Google Trend อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากทาง Twitter ซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบผู้ที่ใช้งาน ตรวจพบประเทศไทย มีบัญชี IO สูงถึง 926 บัญชี เป็นบัญชีท่นำเสนอเนื้อหาในเชิงสนับสนุน จากการตรวจสอบดังกล่าวทำให้ คนไทยให้ความสนใจกับข่าว IO มากขึ้น