จองวัคซีนโควิด 19 ให้คนไทย

กระทรวงสาธารณสุข แจ้งความคืบหน้าการจองวัคซีนโควิด 2.9 พันล้านบาท ให้คนไทย

กระทรวงสาธารณสุขออกมาแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับ การจัดหางบประมาณสำหรับการจองวัคซีนโควิด 19 คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2.9 พันล้านบาท ให้กับคนไทยจำนวน 33 ล้านคน ซึ่งมีการคาดการณ์ออกมาแล้วว่า การเจรจาจะจบในเดือนตุลาคม 2563 นี้

จากการรายงานของ พญ. พรรณประภา ยงค์ตระกูล ดำรงตำแหน่งโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแถลงหลังจากการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติเสร็จสิ้น ว่าที่ประชุมมีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนการเร่งรัดการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด 19 ให้กับประชาชนคนไทย โดยจะมีการออกประกาศสถาบันวัคซีนแห่งชาติตามมาตรา 18 ของพ.ร.บ. ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติในปี 2561 โดยมีการดำหนดหลักเกณฑ์การจัดหาวัคซีนสำหรับการใช้ในประเทศไทยล่วงหน้า เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนในประเทศ 50% โดยมีกรอบวงเงินอยู่ที่ 2,930 ล้านบาท วัคซีนจากบริษัทผู้ผลิตที่มีความก้าวหน้าในการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3 ครอบคลุมประชากรร้อยละ 30% และการจองผ่านโครงการโคแว็กซ์ “COVAX facility” ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งจะสามารถครอบคลุมประชากรร้อยละ 20% แผนการรับมือด้วยวัคซีนโดย 50% ของประชาชน หรือคิดเป็น ประชากร 33 ล้านคน โดย 1 คน จะต้องได้รับวัคซีน 2 โดส เท่ากับว่าจะต้องใช้วัคซีนราวๆ 66 ล้านโดส ในส่วนของราคาวัคซีนนั้นยังไม่มีความชัดเจน

การจองวัคซีนล่วงหน้านี้ จะใช้งบประมาณราวๆ 2,930 ล้านบาท สำหรับแหล่งที่มาของเงินนั้นจะมาจาก พ.ร.ก. เงินกู้เพื่อโควิด หรือจะใช้งบกลางก็ได้ การจองวัคซีนล่วงหน้านี้เป็นช่องทางที่จะทำให้ประเทศ สามารถรับวัคซีนได้เร็วขึ้น ใกล้เคียงกับประเทศผู้ผลิต ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกมีแล้วประมาณ 10 บริษัทที่มีความก้าวหน้าในการทดลองวัคซีนในระยะที่ 3 มีการคาดการณ์ออกมาอีกด้วยว่า การเจรจาจะเสร็จสิ้นในเดือนตุลาคม 2563 นี้ ซึ่งยังอยู่ในช่วงเจรจาทำให้ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ ทั้งนี้ถ้าหากว่าได้รับวัคซีนมา จะเป็นในลักษณะการทยอยเข้ามา ประชากรกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีน คาดว่าเป็นไปตามสากลคือ บุคลากรทางการแพทย์ เพราะว่าต้องทำงานหน้าด่าน และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ส่วนแผนการที่ประเทศไทยต้องการวัคซีนสำหรับคนในประเทศจริงๆ จะอยู่ที่ประมาณ 60% ไปจนถึง 70% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งจะต้องมาดูในแผนระยะต่อไป

ขอบคุณภาพจาก: สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข