ทำความรู้จักกับโมเดลธุรกิจของ E-Commerce

โมเดลการทำธุรกิจของ E-Commerce สิ่งสำคัญในการทำการตลาด

E-Commerce หรือชื่อในภาษาไทยเรียกว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การทำธุรกิจซื้อขายสินค้าและบริการ บนออนไลน์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ โดยอาศัยเครื่องมือหลักคือเว็บไซต์ ซึ่งการทำธุรกิจในลักษณะนี้เกิดขึ้นมานานพอสมควร แต่มักมีการปรับเปลี่ยนโมเดลหรือรูปแบบทำให้ E-Commerce ได้ขยายตัวออกไปสู่กลุ่มคนที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการนำรูปแบบธุรกิจเหล่านี้ไปปรับใช้กับเครื่องมือหรือช่องทางการติดต่อลูกค้าหรือสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจระหว่างกันด้วย วันนี้จึงอยากชวนมาอ่าน เพื่อทำความรู้จักกับโมเดลประเภทต่างๆ ได้แก่

  1. Business to Business: B2B คือ รูปแบบการทำธุรกิจที่เน้นให้บริการระหว่างผู้ประกอบธุรกิจด้วยกันเองหรือเรียกง่ายๆว่าการซื้อขายสินค้า/บริการระหว่างธุรกิจกับธุรกิจหรือองค์กร ไม่ใช่เป็นแบบรายคน ตัวอย่างเช่น การผลิตสินค้าแบบส่ง, บริษัทที่ปรึกษาด้านกฎหมายสำหรับธุรกิจ, อาคารสำนักงานให้เช่าสำหรับธุรกิจ เป็นต้น
    ซึ่งบริษัทประเภทนี้มักจำเป็นต้องมีเว็บไซต์ที่เพิ่มความเชื่อมั่นสำหรับธุรกิจ โดยส่วนของเว็บไซต์ที่สำคัญที่สุดคือ การให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร หรือหลายๆเว็บไซต์ใช้เมนูส่วนนั้นว่า About Us และผลงานหรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ รวมถึงการสร้าง content ที่ทำให้เชื่อมั่นว่าเลือกถูกและตัดสินใจที่จะใช้บริการองค์กร รวมถึงมีการทำ Email Marketing เพื่อให้รับรู้ถึงแบรนด์ด้วย


  2. Business to Consumer: B2C  คือ การทำธุรกิจที่เน้นบริการ/ขายสินค้าให้กับลูกค้า (consumer) หรือผู้บริโภคที่สนใจสินค้าหรือบริการขององค์กรหรือบริษัทของคุณ ซึ่งโมเดลนี้มักจะเป็นการขายปลีกทางอิเล็กทรอนิกส์หรือขายสินค้าบนเว็บไซต์ของแบรนด์และมีระบบการ Shopping เลือกสินค้า และลูกค้าสามารถชำระเงินได้ในหลายรูปแบบ ตัวอย่างเช่น ร้านหนังสือออนไลน์อย่าง เช่น thailand.kinokuniya.com และ se-ed.com ลูกค้าส่วนใหญ่เวลาหาจะใช้คำว่า ส่วนลด Kinokuniya หรือการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์อย่าง thaiairways.com เป็นต้น
    โดยรูปแบบของ B2C นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยของผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่น รสนิยมหรืออารมณ์ ทำให้สิ่งสำคัญเพื่อการขายสินค้าหรือบริการต้องมีการทำ content marketing ให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น ส่วนหน้าขายสินค้าหรือบริการนั้น ควรเน้นการจัดหมวดหมู่หรือโปรโมชั่นเพื่อการเลือกซื้อของลูกค้าด้วย


  3. Consumer to Consumer: C2C คือ ธุรกิจที่เกิดขึ้นระหว่างการซื้อขายสินค้าระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภคด้วยกันเอง โดยมักจะอาศัยแพลตฟอร์มอย่างเช่น Marketplace ในการโพสต์หรือนำเสนอสินค้าหรือบริการ ในหลายปีที่ผ่านมาคนเน้นขายสินค้ามือสองที่ใช้แล้วบนเว็บ ขายดี.com ที่มีการทำการตลาดเชิกรุก ชวนให้คนที่อยากขายสินค้ามาลงทะเบียนแล้วโพสต์รูปขาย เมื่อติดต่อผ่าน online chat หรือ email เสร็จสิ้นก็มีการจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้า ซึ่งปัจจุบันโมเดลนี้เกิดขึ้นหลากหลายช่องทางเช่น E-Commerce เจ้าใหญ่อย่าง LAZADA และ Shopee ก็มีการให้คนทั่วไปที่สนใจลงทะเบียนเพื่อขายสินค้า โดยอาศัยระบบตัวกลาง e-commerce นั้นในการขายสินค้าหรือบริการ โดยผู้ขายต้องส่งสินค้าและลูกค้าต้องได้รับของก่อนจึงจะได้เงินนั้นไป ไม่ต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองก็สามารถขายสินค้าได้ และปัจจุบัน Platform Community อย่าง Facebook มีการเปิด marketplace สำหรับผู้ใช้งานเฟซบุ๊คให้ขายสินค้าหรือบริการได้อีกด้วย เป็นการเพิ่มอีกหนึ่งช่องทางในการทำธุรกิจ
    แต่อย่างไรก็ตาม การปรับใช้เครื่องมืออย่างเว็บไซต์ ก็สามารถทำได้ สิ่งสำคัญคือการใช้ชื่อให้คนจดจำได้ รวมถึงหน้าเว็บที่มีการจัดแต่งที่เหมาะสมกับสินค้าประเภทนั้นๆ หรือมีหลายประเภทก็ควรจัดหมวดหมู่ให้เรียบร้อยนั่นเอง


  4. Business to Government: B2G คือ ธุรกิจการบริหารการค้าระหว่างรัฐกับเอกชนหรือองค์กรอื่นๆ เช่น การประมูลจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ, การจดทะเบียนการค้า, การจดสิทธิบัตร, การค้นหาเครื่องหมายการค้า, ระบบยื่นภาษีออนไลน์ เป็นต้น โดยระบบเว็บไซต์ที่กล่าวมา รัฐบาลมีการจัดการโดยแต่ละหน่วยงาน เช่น ระบบ EDP ของกรมศุลกากร เว็บ customs.go.th เป็นต้น ซึ่งเป็นการจัดการโดยหน่วยงานภายในของรัฐนั่นเอง