คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน มองว่า GDP ปี 2563 ติดลบ 5-8%
- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้มีการเปิดเผยเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยในปีนี้ (2563) ว่าในภาคเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยปี 2563 นี้แย่ลง เบื้องต้นในไตรมาสที่ 2 ของปีคาดว่าจะหดตัวลดลง เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (อ่านเพิ่มเติม: ‘ดัชนีภาวะเศรษฐกิจมีนาคม’ ที่ผ่านมาร่วงต่อเนื่อง)
- ซึ่ง กกร. มีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2563 ดังนี้
- ภาคเศรษฐกิจปรับลดลงมาที่ติดลบ 5-8% จากเดิมที่มองว่าติดลบประมาณ 3-5%
- ภาคการส่งออกปรับลดคาดการณ์ส่งออกมาเป็นติดลบ 7-10% จากเดิมคาดการณ์ว่าจะติดลบ 5-10%
- การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมาที่ติดลบ 1.5% จนถึงติดลบ 1% จากเดิมอยู่ที่ระดับติดลบ 1.5% ถึง 0%
- ภาคเศรษฐกิจปรับลดลงมาที่ติดลบ 5-8% จากเดิมที่มองว่าติดลบประมาณ 3-5%
- อย่างไรก็ตาม การทยอยคลายล็อกดาวน์ในเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนมิถุนายนนี้ ทำให้กิจกรรมภาคธุรกิจเริ่มกลับมา แต่กำลังในการซื้อหรือจับจ่ายใช้สอยของครัวเรือนและธุรกิจยังมีความอ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อระดับการใช้จ่ายภายในประเทศ
- ในส่วนของการส่งออกและการท่องเที่ยวยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่กำลังถดถอย (อ่านเพิ่มเติม: ‘ภาวะเศรษฐกิจถดถอย’ คืออะไร? ส่งผลกระทบอย่างไรกับประเทศไทยในปี 2020) และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่นั้นทวีความรุนแรงขึ้น และระบาดซ้ำในหลายพื้นที่ที่มีการปลอดการติดเชื้อในต่างประเทศ
ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดในครึ่งปี 2563
- สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน และประเทศอื่นๆ
- ภาวะเงินบาทที่แข็งค่าเร็วกว่าสกุลเงินอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงเดือนมิถุนายน ที่มีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ
- ผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่า อาจกดดันภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออก ในหมวดสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีพ
- ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยในช่วงครึ่งปีหลัง
- นโยบายการเงินและการคลังที่ผ่อนคลายจากรัฐบาลไทย เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
- การอนุมัติแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมวงเงิน 4 แสนล้านบาทที่จำเป็นต้องจับตามองว่าสามารถทำให้เกิดผลอย่างไร หรือส่งผลดีต่อการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจหรือไม่นั้น ต้องติดตามกันต่อไป