เปิดเผยข้อมูล กลุ่มที่ติดเชื้อโควิด 19 แล้วอันตรายที่สุด
สำหรับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ล่าสุดถึงแม้จะมีข่าวออกมาไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้ประชาชนวิตกกังวลไม่น้อยเลย สำหรับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รอบนี้ มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดจากทางกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับข้อมูลของผู้เสียชีวิตของโควิด 19 รอบนี้ที่เรียกว่าเป็น Small Wave ที่จะมีผลถึงมีนาคม 2566 หรือปีหน้าเลย ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาเน้นย้ำเกี่ยวกับรับวัคซีนโควิด ต้องได้รับการกระตุ้นถึงเข็ม 4
เปิดเผยข้อมูลการที่ประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่มีแนวโน้มว่ามีจำนวนมากขึ้นในตอนนี้ เนื่องจากมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น ทำให้มีโอกาสที่เชื้อจะกระจายไปยังกลุ่ม 608 ที่เป็นกลุ่มโรคร่วมได้มากยิ่งขึ้น สถานการณ์ล่าสุดมีข้อมูลว่า มีผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 และ ผู้มีโรคร่วม และ ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน สำหรัอัตราการเสียชีวิต สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
- 70% ในผู้เสียชีวิตเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนน้อยกว่า 3 เข็ม
- 50% ไม่ได้ฉีดวีคซีนเลย
- 20% ฉีดวัคซีนแค่ 2 เข็ม
สำหรับสาเหตุที่ทำให้มีตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากมาตรการผ่อนปรนวิธีชีวิตที่มีมากขึ้น ในขณะที่มีผู้ติดเชื้อที่มีอาการน้อยก็รักษาแบบผู้ป่วยนอก หรือ OPD ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล สามารถรักษาตัวเองที่บ้านได้ ทำให้โอกาสของความเสี่ยงที่จะติดคนในครอบครัวมีมากขึ้น สำหรับคนในครอบครัวส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้สูงอายุ หรือ กลุ่ม 608 นั่นเอง ทำให้แนวโน้มของผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นมาจากกลุ่มนี้ สำหรับกลุ่มที่เสี่ยงมากที่สุดคือกลุ่มที่ไม่ได้ทำการฉีดวัคซีน ส่วนคนที่ได้รับวัคซีนแล้วทางกระทรวงสาธารณสุข เปรียบเสมือนเป็นโรงงานผลิตภูมิคุ้มกันที่จะไปต่อสู้กับโรค
หลังปีใหญ่สถานการณ์โควิด-19 จะเป็นอย่างไร?
สถานการณ์กหลังปีใหม่มีการแจ้งออกมาแล้วว่า แนวโน้มของผู้ป่วยโควิด 19 จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน สถานการณ์เตียงของผู้ป่วยโควิด 19 รวมถึงระดับต่างๆ ในปัจจุบันใช้ไปแล้วกว่า 35% ยังมีเตียงที่ว่างรองรับผู้ป่วย ที่มีอาการได้อีกกว่า 60% แต่ถ้าหากมีสถานการณ์ความรุนแรงที่มีผู้ป่วยจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล เพิ่มก็เตรียมความพร้อมของห้องต่างๆที่สามารถขยายได้ทันที สำหรับจำนวนผู้ป่วยโควิดที่เข้ามารักษาแบบ OPD ภาพรวมในสถานพยาบาลทั่วประเทศนั้นมีมากขึ้นจากเดิมช่วยที่สถานการณ์ของเฉลี่ยผู้ป่วยสัปดาห์ละ 2,000 คน ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเฉลี่ยสัปดาห์ละ 4,000 คน หรือประมาณวันละ 700-800 คน
ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ขอความร่วมมือผู้ป่วยที่รักษาแบบ OPD ให้ทำการกักตัวอย่างน้อย 5 วัน หากจำเป็นต้องออกไปภายนอกพยายามป้องกันไม่ให้ไปติดผู้อื่น โดยเฉพาะมาตรการป้องกันตัวเองทั้งการสวมหน้ากาก และ การล้างมือ
ข้อมูลการศึกษาวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นสายพันธุ์เดิมที่ใช้จริงในประเทศไทย หรือ real world data ในช่วงที่มีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า วัคซีนจะลดความรุนแรงและการเสียชีวิตลงร้อยละ 89 ในผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีน 3 เข็ม และ กลุ่มที่ได้ 4 เข็มไม่พบภาวะรุนแรง หรือ การเสียชีวิตเลย ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแบรนด์ไหนก็ตาม ทางกระทรวงสาธารณสุข แนะนำให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน 4 เข็ม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 เพื่อลดความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต