สายพันธุ์ไวรัสโคโรน่า (COVID-19) มีมากกว่าหนึ่ง!

โควิด-19 มีสายพันธุ์มากกว่า 1 ชนิด

จากข้อมูลเมื่อไม่นานมานี้ของนายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ เป็นหัวหน้าห้อง ICU เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาโพสต์บนเพจ Facebook ซึ่งได้กล่าวถึงกรณีของการแพร่ระบาดที่สนามมวยลุมพินีในวันที่ 6 มี.ค. 63 ที่มีเซียนมวยคนหนึ่ง ติดเชื้อโควิดจากคนในครอบครัวที่เดินทางกลับจากประเทศอิตาลี เซียนมวยคนนี้เป็น Super spreader แพร่เชื้อให้คนที่มาสนามมวยวันนั้นมากกว่า 50 คน และคนป่วยที่ติดเชื้อนี้กำลังแพร่กระจายให้คนอื่นต่อไปเป็นวงกว้างไปทั่วประเทศ

โดยเชื้อโคโรนาไวรัสที่พบบ่อย ได้แก่ 229E, NL63, HKU1 และสายพันธุ์ OC43 มักจะมีอาการไอ เสมหะมาก นอนไม่ได้เพราะไอทั้งคืน เหนื่อย หายใจมีเสียง ไม่มีไข้ ไม่เจ็บคอ ปอดแทรกซ้อนหลังการติดเชื้อโคโรนาไวรัสพันธุ์นี้ ซึ่งอาการของ 4 สายพันธุ์นี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก

สายพันธ์เหล่านี้ติดต่อกันง่ายระหว่างคนสู่คน ทำให้เกิดไข้หวัดธรรมดา ไม่รุนแรง ซึ่งถือว่าเป็นเชื้อไวรัสประจำถิ่นของทุกประเทศ มักเกิดในเด็กเล็ก แต่ในผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัว อาจทำให้ปอดติดเชื้อป่วยหนักได้ ซึ่งเชื้อ 4 สายพันธุ์ที่กล่าวมานี้ แตกต่างจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ SARS-CoV-2 ที่มีพันธุกรรมใกล้ชิดกับสายพันธุ์ RaTG13 พบในค้างคาว Rhinolophus affinis ที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ซึ่งรุนแรงกว่ามาก ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวที่แพร่ระบาดในอิตาลีที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก เชื้อนี้ทำลายปอดและระบบหายใจอย่างรุนแรง


และข้อมูลเพิ่มเติมจากศาสตราจารย์นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่าน Facebook เช่นกันว่า สายพันธุ์ของโควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงตามวิวัฒนาการ จากกลุ่ม S (serine) มาเป็น L (leucine) ที่แพร่กระจายได้มากกว่า ซึ่งระบาดง่ายและรวดเร็ว ซึ่งสายพันธุ์ของโควิดมี S, M, L ตามลำดับ แต่ความรุนแรงเท่ากันแค่ระบาดเร็ว-ช้าต่างกัน

  • สายพันธุ์ที่พบในยุโรป คือ สายพันธุ์ L แบ่งออกเป็นอีก 3 กลุ่มย่อย
    • กลุ่ม 1 เป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ พบได้มากในอิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศษ และเนเธอแลนด์ รวมถึงอังกฤษ ในขณะเดียวกัน สายพันธุ์ที่พบในอิตาลี มีอัตราตายของผู้ป่วยสูง แต่พบในเยอรมันสายพันธุ์เดียวกันกับมีอัตราตายต่ำกว่าในอิตาลีมาก อาจเนื่องด้วยผู้ป่วยที่พบในอิตาลีมีผู้สูงอายุ และอัตราตายของอิตาลี เมื่อเทียบตามอายุ เหมือนกับอัตราตายตามอายุในจีน
    • กลุ่ม 2 ของยุโรป มีแนวโน้มแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้น พบในประเทศเช่น สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม ฮังการี ลักเซมเบิร์ก เป็นต้น
    • กลุ่ม 3 แนวโน้มการแพร่ระบาดอาจลดช้าลงได้ เป็นกลุ่ม S โดยกลุ่มประเทศเช่น สเปน สวีเดน เวลส์ เป็นต้น
  • สายพันธุ์ในอเมริกา ตอนนี้ยังคงเป็นสายพันธุ์ L ที่จะมีแนวโน้มที่จะเป็น S เพราะระบาดช้าลง
  • สายพันธุ์ในไทยที่เกิดการระบาดเป็นสายพันธุ์ L ระบาดรวดเร็วเช่นเดียวกับอิตาลี

แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมที่ทำให้โรคโควิด-19 รุนแรงขึ้น นอกจากนี้คณะนักวิจัยจีน ระบุว่า เชื้อโควิด-19 ไม่ได้ตายด้วยการเจออากาศร้อน แต่ทำให้มันอ่อนแอลงเท่านั้น ซึ่งถ้าอากาศกลับมาชื้นและเย็น มันจะกลับมามีชีวิตต่อไป


ข้อมูลบางส่วนจาก Nextstrain.org