แจ้งการเลื่อนเปิดสถานบันเทิง ชะลอไปถึง 16 มกราคม 2564
เปิดเผยข้อมูลจากทางผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทาง ศบค. ได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญที่มีการหารือกันเกี่ยวกับเรื่องการเปิดกิจการสถานบันเทิง หรือ กิจการที่มีลักษณะคล้ายหรือใกล้เคียงกับที่ประชุม ศบค. ย้ำว่าให้ความสำคัญกับทุกกิจการ และ กิจกรรมไม่ได้เลือกปฎิบัติ จากกรณีที่มีการชะลอการเปิดกิจการไปก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 16 มกราคม 2565 ที่จะมีการผ่อนคลายให้เปิดสถานบันเทิง ซึ่งน่าจะเปิดได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์
ภายหลังมีการประกาศชะลอมาตรการ เข้าใจว่าผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบมีความผิดหวัง ซึ่งขอชี้แจงว่า การเลื่อนเปิดจำเป็นจะต้องเลื่อนเนื่องจากจะต้องพิจารณาในหลายๆฝ่าย ต้องมอบให้รอบด้าน และรอบคอบมากที่สุด ข้อสรุปในการประชุมที่ผ่านมา มีการลงมติเห็นสมควร ให้เปิดเมื่อพร้อม ทางด้านตัวแทนผู้ประกอบการเองก็เข้าใจ ถือว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกับทางภาครัฐบาล และผู้ประกอบการ
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศไทย
สำหรับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศไทยยังคงทรงตัวอยู่ ทางกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานของศบค. ได้มีการประชุมร่วมกัน เพราะว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของคงทรงตัวอยู่ถึงแม้ทิศทางจะดำเนินไปทิศทางที่มันดีขึ้น แต่ทางผู้ที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถกดตัวเลขผู้ติดเชื้อให้น้อยลงกว่า 5,000 คนต่อวันไม่ได้ และยังมีผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้น้อยกว่า 50 รายต่อวันไม่ได้ และนี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผล จากการสำรวจจากทางกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานในพื้นที่ มีสถานบริการที่ยังไม่ได้ทำการขึ้นทะเบียน ขอพิจารณายกระดับ เป็นสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน SHA+ หมายถึงสถานประกอบการที่ได้มาตรฐานในการควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อรองรับการเปิดดำเนินการกิจกรรมตามหลักวิถึใหม่ ปัจจุบัน กรุงเทพมหานคร มีสถานประกอบการ SHA+ มากกว่า 7,994 แห่ง
จากการตรวจสอบจากทางกรมอนามัย ได้มีการประเมินตามมาตรฐาน COVID Free Setting ที่จังหวัดเชียงใหม่ผ่านตลาดนัดผ่านเกณฑ์ 1 แห่ง และตลาดสด 14 แห่ง โรงภาพยนต์ 2 แห่ง และ สถานนีขนส่ง สถนามบิน สถานีรถไฟ และ ร้านอาหารผ่านการประเมิน COVID Free Setting จำนวน 1 แห่ง จากการตรวจสอบไปยังโฆษก ศบค. ได้เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญในที่ประชุม และเพื่อเป็นการขอความร่วมมือ สำหรับท่านที่เป็นผู้ประกอบการ ต้องให้บริการลูกค้า ต้อนรับนักท่องเที่ยว ถือว่าเป็นกิจการที่มีความเสี่ยง ที่มีการรวมกลุ่มของประชาชน ขอให้เข้าไปตรวจสอบที่เว็บไซต์ กรมอนามัยเพือศึกษาข้อมูลปฎิบัติ และเริ่มเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ สำหรับการประเมิน COVID Free Setting เป็นการประเมินตนเอง หากไม่แน่ใจ สามารถให้หน่วยงานในพื้นที่ของตนช่วยตรวจสอบ และเมื่อตรวจสอบแล้วจะมีมาตรการบางอย่าง ที่จะได้เรียนรู้หากทำไม่ครบถ้วนจะได้รับการปรับแก้ไข
ทางศบค. ยังแจ้งอีกด้วยว่าสำหรับการเปิดหรือไม่เปิดดำเนินกิจการนั้น ไม่ได้อยู่ในความตัดสินใจของศบค. แต่จะดูที่ความพร้อมของสถานประกอบการของท่าน รวมถึงการจัดการของเจ้าของกิจการ, พนักงาน, รวมถึงการจัดการสถานที่ให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งออกมาย้ำว่าเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งโลก
ปัจจุบันคนไทยมีจำนวนทั้งหมด 11 ล้านคน ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
สถานประกอบการที่ต้องการผ่านมาตรฐาน SHA+ จะต้องให้บุคลากรในสถานประกอบการได้รับวัคซีนที่ได้มาตาการ ซึ่งตอนนี้มีคนไทยกว่า 11 ล้านคนที่ยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด เข็มแรก ทำให้ต้องมีการรณรงค์โดยเฉพาะพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ที่มีบุคลากร, พนักงานในร้าน, สถามประกอบการ ที่อาจจะยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ, โรงเรียน, โรงภาพยนต์ ขอให้มีการประชาสัมพันธ์ และขอให้เข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน นี่เป็นอีกหนึ่งมาตรการ SHA+ ในการที่ท่านจะได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการด้วย