ระบบเรียนออนไลน์ ครูพร้อม

เปิดรายละเอียดระบบใหม่ล่าสุด ครูพร้อม เว็บไซต์กลางจัดการเรียนการสอน

กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมพร้อมเปิดเว็บไซต์ใหม่แกะกล่องโดยใช้ชื่อว่า “ครูพร้อม” เป็นเว็บไซต์กลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อจัดการเรียนการสอนก่อนจะมีการเปิดเทอมจริง 11 วัน ซึ่งจะเปิดเทอมในวันที่ 11 มิถุนายน 2564 เพื่อเด็กจะได้เรียนออนไลน์ ต่อแบบไม่มีหยุดชะงัก วันแรกที่จะเปิดใช้คือวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 นี้

กระทรวงศึกษาธิการ ได้เตรียมตัวจัดการเรียนการสอนของครูและนักเรียน ผ่านเว็บไซต์ ออนไลน์ใหม่แบบป้ายแดงโดยใช้ชื่อว่า ครูพร้อม ที่จะเปิดให้เด็กเข้าไปใช้งานในวันแรกคือวันที่ 17 พฤษภาคม 2564 เพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กก่อนเปิดเทอมในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 นี้ เพื่อเป็นการปูธทางเรียนออนไลน ในระยะที่ 2 แบบต่อเนื่อง วันนี้เราไปทำความรู้จักกับเว็บไซต์ใหม่ของกระทรวงศึกษาธิการกับเว็บไซต์ครูพร้อม

ครูพร้อมคืออะไร?

ครูพร้อม หรือ https://www.ครูพร้อม.com คือเว็บไซต์ ที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยกระทรวงศึกษาธิการ จัดทำขึ้นมาใหม่แบบแกะกล่องเลย เพื่อเสริมแพลตฟอร์มต่างๆ ที่หน่วยงานในสังกัด ศ.ธ. มีอยู่ โดยจะทำหน้าที่เป็นคลังสื่อการเรียนการสอน, ข้อมูลการเรียนรู้ รวมไปถึงรูปแบบการจัดกิจกรรม จะมีข้อมูลทั้ง สพฐ., สช., สำนักงาน กศน และ สอศ. ภายในเว็บไซต์ จะมีการแบ่งหัวข้อหรือหมวดหมู่ตามความสนใจ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เรียนทุกกลุ่มเช่น ครู, ผู้บริหาร และ ผู้ปกครอง สามารถเข้าถึงได้ผ่านระบบกลาง

กิจกรรมจะถูกจัดในรูปแบบออนไลน์ ทางสถานศึกษา และ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จะเป็นผู้ออกแบบกิจกรรมร่วมกับ ศบค. จังหัด ซึ่งคิดขึ้นมาจากเหตุการณ์ร่วมสมัย สิ่งที่สำคัญคือทุกคนสามารถเลือกหัวข้อหรือกิจกรรมที่ต้องการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง

ครูพร้อมเปิดใช้งานเมื่อไหร่?

จากการเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2564 ของสถานศึกษาในสังกัน เป็นวันที่ 1 เมษายน 2564 เนื่องจากสถานการณ์โดยรวมของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 รอบใหม่ล่าสุด โดยเป็นเชื้อไวรัสสายพันธ์อังกฤษ ทำให้กระศึกษาธิการ จัดทำเว็บไซต์ ครูพร้อมขึ้นมา โดยนำร่องเปิดใช้งาน 11 วันก่อนเปิดเทอม ตั้งแต่วันที่ 17 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เพื่อจัดกิจกรรมเรียนเสริมตามสมัครใจ โดยไม่มีการให้คะแนน

หลังจากนั้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เป็นวันเปิดเทอม ซึ่งจะมีการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ แล้วแต่ความเหมาะสมของพื้นที่ของโรงเรียน เช่น เรียนที่โรงเรียน, เรียนผ่านแอพพลิเคชั่น, เรียนออนไลน์ผ่านอินเทอร์เน็ต, เรียนที่บ้านด้วยเอกสาร ฯลฯ ต้องเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก