ธนาคารพาณิชย์ ตอบรับนโยบาย ธปท. ช่วยเหลือลูกหนี้เฟส 2
- ก่อนหน้านี้ทางธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปกันหลายโครงการ (อ่านเพิ่มเติม: รวมธนาคารที่พักชำระหนี้บัตรเครดิต ช่วยเหลือลูกหนี้ช่วงวิกฤตโควิด-19 | ธอส.เรียกลูกหนี้ประเมินศักยภาพ เตรียมมาตรการช่วยเหลือ )
- ปัจจุบัน ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ได้ทยอยออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในเฟสที่ 2 ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โดยเบื้องต้นมีมาตรการ ดังนี้
- ปรับลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิตเหลือ 16%
- ปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลเหลือ 25%
- ขยายเวลาการพักชำระหนี้ และยืดระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป เพื่อลดภาระให้กับลูกหนี้ของธนาคาร
รายละเอียดมาตรการของแต่ละแบงก์
-
ธนาคารกรุงศรีอยุทธยา (BAY)/กรุงศรีคอนซูเมอร์
- ลดดอกเบี้ยบัตรเครดิตเหลือ 16%
- ลดดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลเหลือ 25%
- ขยายระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 90 เดือน ลดดอกเบี้ยเหลือ 12%
- ช่วยเหลือลูกหนี้ที่ค้างชำระ ด้วยการลดดอกเบี้ย และยืดระยะเวลาผ่อนชำระ รวมถึง Hair-Cut หนี้สำหรับบางกรณี
-
ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
- เน้นการปรับลดเพดานดอกเบี้ยเป็นการทั่วไป
- ปรับลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิตเหลือ 16%
- ปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลเหลือ 25%
- ขยายวงเงินให้ลูกหนี้ดี ที่มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อเดือน เป็น 2 เท่า (ชั่วคราว)
- ขยายมาตรการขั้นต่ำ เปลี่ยนประเภทสินเชื่อเป็น Term-Loan 48 งวด ดอกเบี้ยไม่เกิน 12%
- สินเชื่อบ้าน พักหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ยได้ 3 เดือน และเลือกลดค่างวด หรือจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยได้
- สินเชื่ผ่อนเป็นงวด ลดค่างวด 30% ดอกเบี้ยไม่เกิน 22%
-
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)
- ลดดอกเบี้ยบัตรเครดิตเหลือ 16%
- ลดดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลเหลือ 25%
- ลูกค้าสินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต บัตรเงินด่วน สามารถเลือกจ่ายได้ ดังนี้
- พักหนี้เงินต้น และจ่ายแต่ดอกเบี้ยได้ยาวถึง 6 เดือน หรือ
- เลือกเปลี่ยนเป็นผ่อนชำระ 48 เดือนดอกเบี้ย 12 เดือน หรือ
- ลดค่างวด 3% เป็นเวลา 6 รอบบิล ดอกเบี้ย22%
- ลูกค้าสินเชื่อบ้าน สามารถเลือกจ่ายได้ดังนี้
- จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย และลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.1% เป็นเวลา 3 เดือน หรือ
- ลดค่างวด 50% 3 เดือน และพักเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน
- ลูกค้าสินเชื่อรถ ลดค่างวด 30% ของค่างวดเดิม ตลอดอายุสัญญา อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22%