หลังสงกรานต์ 66 โควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 เริ่มระบาด
หลังจากจำนวนการติดเชื้อโควิดของประชากรเริ่มน้อยลง และอาการหลังติดโควิดเริ่มไม่ค่อยรุนแรง สามารถทานยาตามอาการก็หายได้ แต่โควิดก็ยังอยู่รอบตัวเรา แต่ทุกคนก็ได้เริ่มปล่อยวางกับการป้องกัน ลดการเว้นระยะห่างลง และไม่ค่อยใส่หน้ากากในพื้นที่สาธารณะ เมื่อต้นเดือนเมษา ก็เริ่มมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทั่วโลก และมีการคาดการณ์ว่าจะมีโควิดสายพันธ์ใหม่เกิดขึ้น XBB.1.16 และจะเข้ามาในไทย
กรมควบคุมโรค พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า
จากรายงานของ กรมควบคุมโรค พบผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าของสัปดาห์ก่อนหน้า มีผู้ป่วยอาการหนักต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้น ร้อยละ 36 คาดว่าหลังสงกรานต์ มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากโควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 เพราะติดเชื้อได้ง่ายกว่าเดิมถึง 2 เท่า
โควิดสายพันธุ์ XBB.1.16
โควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 หรือมีชื่อเรียกว่า อาร์คทูรัส (Arcturus) XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน BA.2 ที่เป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ BA.2.10.1 และ BA.2.75 ถือว่าไม่ใช่โควิดสายพันธุ์ใหม่ แต่เป็นโควิดลูกผสม พบครั้งแรกในประเทศอินเดีย เมื่อต้นปี เดือนมกราคม 2566 ก่อนจะเริ่มระบาด ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดให้โควิด XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าติดตาม (Variant Under Monitoring) ปัจจุบันโควิด XBB.1.16 แพร่กระจายไปมากกว่า 20 ประเทศแล้ว รวมทั้งในประเทศไทยที่เริ่มพบผู้ป่วยบ้างแล้ว
อาการโควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16
มีไข้สูง ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส มีรายงานว่า เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง ลักษณะคล้ายตาแดง มีผื่นคัน เพราะเชื้อมีการแพร่กระจายเข้าไปยังเยื่อบุตา ถ้ามีมากยิ่งมีผลต่อดวงตา ผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น เยื่อบุตาอักเสบ ภูมิแพ้ ควรระมัดระวัง
ขณะนี้ยังไม่มีรายงานถึงผู้ป่วยในไทย มีอาการร้ายแรง จากโควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 แต่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำถึงการเฝ้าระวัง โดยการสวมใส่หน้ากากอนามัย งดการไปในที่ชุมชน รวมถึงฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หากมีอาการระคายเคืองตา ไม่ควรขยี้ตาอย่างรุนแรง และควรพบแพทย์ทันที