เช็ครายละเอียดล็อกดาวน์ ก่อนล็อกจริง
ล็อกดาวน์ประเทศไทย จะเกิดขึ้นจริงไหม จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แล้วมีความเป็นไปได้รึเปล่าที่รัฐบาลจะมีมาตรการออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการหลังมีคำสั่งล็อกดาวน์ ภายหลังที่ประเทศไทยเจอกับวิกฤตโควิดระบาดหนักที่สุดตั้งแต่เคยมีการระบาดมี ด้วยยอดพุ่งต่อวันมากที่สุด และมียอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงมากที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา
จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในปัจจุบันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นของประเทศไทย มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเกือบจะหลักหมื่นต่อวันแล้ว ทำให้ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ในขั้นวิกฤต ต้องหาลือถึงมาตรการที่จะออกมาระงับ หรือ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง ทำให้มาตรการ “ล็อกดาวน์” ถูกเอาออกมาพูดถึงอีกครั้งหนึ่ง ล่าสุด ศบค. ได้ออกมายอมรับถึงกระแสข่าวและความเป็นไปได้ที่ประเทศไทย อาจจะมีการ ล็อกดาวน์ เฉพาะจุด ได้แก่ 10 จังหวัดสีแดงเข้ม ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรืออาจจะมีการสั่งล็อกดาวห์ทั้งประเทศ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ เพื่อเป็นการควบคุมเต็มที่
เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าคำว่า “ล็อกดาวน์” ในมุมของรัฐบาลนั้น หมายความอย่างยังไง ถ้าเป็นเเหมือนเมษายน 2563 ตอนนั้นเป็นการล็อกดาวน์ แต่หลังจากนั้นไม่ใช่การล็อกดาวน์ เป็นการปิดกิจการ เพื่อเป็นการจำกัดการเคลื่อนย้าย ตอนนี้ได้มีการออกมายืนยันว่าไม่ได้หลีกเลี่ยงโดยใช้คำว่า ล็อกดาวน์ ตอนนี้สังคมไทยยังลุ้นกันอยู่ว่าประเทศไทยตอนนี้ จะมีมาตรการล็อกดาวน์ดเต็รูปแบบ หรือ ล็อกดาวน์ทั้งประเทศรอบ 2 หรือไม่นั้น ทาง ACCESSTRADE ประเทศไทย จะพาผู้อ่านไปดูกันด้านล่าง พร้อมกับเทียบสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิดในประเทศไทยตอนนี้
เหตุผลที่ว่าทำไมประเทศไทยต้องล็อกดาวน์
อัพเดทสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ในปัจจุบันของประเทศไทย ถือว่าเข้าขั้นวิกฤต เนื่งจาอสถานการณ์ตอนนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีท่าทีว่าจะลดลง เราไปดูเหตุผลว่าทำไมเราควรล็อกดาวน์กันได้ด้านล่าง
- ความร้ายแรงของโควิดสายพันธุ์อินเดีย ปัจจุบันเชื้อตัวนี้กำลังกระจาย และเป็นเชื้อที่สามารถติดกันได้มา่กๆ แถมความน่ากลัวของมันก็คือ ผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยอยู่ในภาวะออกซิเจนต่ำกว่าปกติ ปอดอักเสบเร็วกว่าปกติ แถมตอนนี้สายพันธุ์อังกฤษ ที่เดิมใช้เวลา 7-10 วันถึงจะทำให้ปอดผู้ติดเชื้ออัพเสบได้ แต่สายพันธุ์เดลต้า หรือ สายพันธุ์อินเดียที่กำลังระบาดตอนนี้ ใช้เวลาเพียง 3-5 วันเท่านั้น และนี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเตียงถึงไม่พอจากที่เราเห็นข่าวที่ประเทศอินเดียที่วิกฤตหนักขนาด ถังออกซิเจนขาดตลาด เนื่องจากสายพันธุ์อินเดียนี่แหละ
- จำนวนการฉีดวัคซีนในประเทศไทยยังต่ำ มากสำหรับเข็มแรกของวัคซีนโควิดที่ถูกฉีดมีเพียงแค่ 16.5% เท่านั้น โดยเป้าหมายก็คือ 50 ล้านราย ซึ่งเป็นเกณฑ์สำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ จากการคำนวณของประชากรทั้งประเทศที่มี 70 ล้านคน ตอนนี้มีผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มแรกเพียง 11.77% เท่านั้น
- แนวโน้มของผู้ติดเชื้อวัคซีนโควิดในประเทศไทย อาจพุ่งสูงถึงหลักหมื่นคนต่อวัน ถ้าเรายังคงใช้มาตรการเดิมอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อทำ New High ต่อเนื่อง การระบาดในประเทศไทยตอนนี้ ที่กำลังรับมือกับโควิดสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ภายใน 2 สัปดหา์ เป็นไปได้ว่าโอกาสที่จะมีผู้ติดเชื้อรายวันพ่งสูงถึง 10,000 รายต่อวัน
- มีตัวเลขของผู้ติดเชื้อในสำนักงานเพิ่มมากขึ้น จากตัวเลขที่มีพนักงานที่ทำงานในองค์กร หรือ สำนักงานเพิ่มมากขึ้น คิดเป็นตัวเลขถึง 40%
- ปัญหาเตียงไม่พอ เป็นปัจจัยสำคัญทำให้แพทย์ในประเทศไทยออกมาเรียกร้องอยู่ในตอนนี้ ว่าให้มีการ Lock Down เนื่องจากความร้ายกาจของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ที่ทำให้เชื้อแพร่กระจายได้ง่ายแล้ว ยังทำให้มีความเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการหนัก มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆอีกด้วย จากตัวเลขปัจจุบันมีผู้ป่วยอาการหนักทั้งหมด 2 พันกว่ารายใช้เครื่องช่วยหายใจเกือบพันราย
- ผู้ติดเชื้อในกทม. เดินทางออกจากกทม. สาเหตุหลักที่คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯเดินทางออกจากรุงเทพฯ กลับต่างจังหวัดเนื่องจากปัญหาเตียงไม่พอ เนื่องจากโรงบาลต่างจังหวัดมีเตียงที่เพียงพอที่จะรองรับ ถึงแม้จะมีคำสั่งให้งดเดินทางออกนอกพื้นที่จังหวัดควบคุมสูงสุด แต่เนื่องจากไม่ได้ห้ามเด็ดขาด ทำให้ยังคงเกิดการเคลื่อนย้ายของประชากรในกทม. อยู่ซึ่งเสี่ยงมากๆที่จะนำเชื้อไปแพร่ในจังหวัดต่างๆได้
ล็อกดาวน์ ประเทศไทย
ความเป็นไปได้หากมีการล็อกดาวน์ในประเทศไทยนั้น จะเป็นไปตามข้อกำหนด พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ฉบับที่ 1 ที่ประกาศเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 ปีที่แล้ว ตามรายละเอียดด้านล่าง
- ห้ามออกนอกเคหสถาน 4 ทุ่มถึงตี 4
- ปิดสถานที่เสี่ยง
- ปิดช่องทางเข้าประเทศ
- ห้ามกักตุนสินค้า
- ห้ามชุมนุม
- ห้ามเสนอข่าวที่ไม่จริง
- ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด
คำสั่งของ กรุงเทพมหานคร ในเดือนเมษายน 2563 ที่มีการล็อกดาวน์
- งดนั่งรับประทานอาหารในร้าน
- ปิดห้างสรรพสินค้า ยกเว้น Super Market
- ปิดตลาด เปิดจำหน่ายเฉพาะอาหาร และ สินค้าจำเป็น
- ปิดสถานที่เสี่ยงเช่นร้านเสริมสวย, ร้านสัก, สวนสนุก, ร้านเกม, สระว่ายน้ำ, ศูนย์การค้า และ สถานที่ออกกำลังกาย
จากคำสั่งการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนเมษายน 2563 ปีที่แล้วทำให้รัฐบาลต้องเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบเกือบ 3 แสนล้านบาท ถึงแม้จะใช้เงินเยียวยาเยอะขนาดนี้ก็ยังคงเยียวยาไม่ทั่วถึง
