รับเงินเยียวยาล็อกดาวน์

รายละเอียดเงินเยียวยาล็อกดาวน์ 3 หมื่นล้าน

จากการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ได้ลงมติเห็นชอบทุ่มเงินเยียวยา ประชาชนและผู้ประกอบการ 10 จังหวัด จากมาตรการล็อกดาวน์ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, ปทุมธานี, สมุทรสาคร, นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา และ สงขลา รัฐบาลได้มีมติเห็นชอบอนุมัติวงเงิน 42,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ตามรายการด้านล่าง

  • มาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบสำหรับลูกจ้าง และ กิจการใน 10 จังหวัดสีแดงเข้ม วงเงิน 30,000 ล้านบาท
  • มาตรการลดค่าครองชีพ โดยลดค่าน้ำค่าไฟ 2 เดือน ผ่านวงเงิน 12,000 ล้านบาท

จากการเปิดเผยข้อมูลของเลขาธิการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม ได้ออกมาแจ้งว่า วงเงินที่จะใช้ในส่วนนี้ จะใช้กรอบวงเงินจาก พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังทำการกู้เงิน เพื่อนำไปเยียวยาและฟื้นฟูผลกระทบจากโควิด-19 เพิ่มเติม ที่มีวงเงิน 5 แสนล้านบาท โดยได้รวมวงเงินของประกันสังคมไว้หากเข้าตามเงื่อนไขของประกันสังคม ก็จะสามารถใช้เงินจากระบบประกันสังคมได้

เงินช่วยเหลือพิเศษให้กับทางแรงงาน และ นายจ้างที่ไม่อยู่ในระบประกันสังคม จะทำการจ่ายเงินจากเงินกู้จะใช้จ่ายตามจิรงโดยไม่เต็มเพนดาน ซึ่งขอไว้ที่ 3 หมื่นล้านบาท มาตรการดังกล่าวได้รวบรวมวงเงินในครั้งก่อนที่เสนอขอกับทางคณะรัฐมนตรี เนื่องจากมีการเพิ่มวงเงินในบางรายการ และเพิ่มกลุ่มอาชีพที่รับความช่วยเหลือตามประเภทกิจการจากเดิมเยียวยา 4 กลุ่มกิจการเพิ่มอีก 5 กลุ่มกิจการ รวมเป็นกิจการที่ได้รับการเยียวยาทั้งหมด 9 หมวดด้วยกันตามรายการด้านล่าง

  1. สาขาข้อมูลข่าวสาร และ การศึกษา
  2. สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และ กิจกรรมวิชาการ
  3. สาขากิจกรรมการบริหาร และ บริการสนับสนุน
  4. สาขาขนส่ง และ สถานที่เก็บสินค้า
  5. สาขาการขายส่ง และ การขายปลีก การซ่อมยานยนต์
  6. ก่อสร้าง
  7. กิจกรรมการบริการด้านอื่นๆ
  8. ศิลปะบันเทิงและนันทนาการ
  9. ที่พักแรม และ บริการด้านอาหาร

การเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้มีการเพิ่มกิจการของถุงเงิน โดยเพิ่มเติมจากร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยให้รวมร้าน OTOP, ร้านค้าทั่วไป, ร้านค้าบริการ, กิจการขนส่งสาธารณะไม่รวมกิจการขนาดใหญ่ ให้มาตรการดังกล่าวออกมาเป็นการให้ความช่วยเหลือ 1 เดือน และอาจมีแนวโน้มขยายตามสถานการณ์ในปัจจุบัน

รายละเอียดการเยียวยา แรงงานในระบบประกันสังคม และ นอกระบบประกันสังคม

  • ลุ่มแรงงานตาม ม.33 ในกิจการ 9 หมวด รัฐจะช่วยจ่ายเงินเยียวยาให้ 50% ของรายได้ สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท และ จ่ายเงินสมทบให้กับลูกจ้างสัญชาติไทยอีก 2,500 บาทต่อคน รวมแล้วได้รับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
  • ผู้ประกอบการหรือนายจ้าง ให้ความช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้าง สูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000 บาทต่อคน จำนวน 1 เดือน
  • ผู้ประกันตนมาตรา 39 และ มาตรา 40 ที่มีสัญชาติไทย และยังคงประกอบอาชีพอยู่ในปัจจุบัน ได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน

ในส่วนของผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 33, มาตรา 39 และ มาตรา 40 เป็นบุคคลสัญชาติไทย ที่ยังประกอบอาชีพในปัจจุบัน ให้ทำการเตรียมหลักฐานเพื่อขอลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตน ม.40 กับทางสำนักงานประกันสังคมภายในเดือน กรกฎาคม 2564 เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 1 เดือน

 

แสดงความคิดเห็นของคุณ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *