ศบค. เตรียมพิจารณาล็อกดาวน์ หากทีมแพทย์เสนอ

ด่วน! ทางด้านศบค. ได้ออกมาเตรียมการพิจารณา ล็อกดาวน์ทั้งประเทศไทย หากทีมแพทย์ ได้มีการเสนอ ตอนนี้มองว่าต้องใช้งบเยียวยาในตัวเลขที่สูงมากๆ ให้กับประชาชน คิดเป็นตัวเลขกลมๆเดือนละ 3 แสนล้าน ขอรอสธ. เคาะแบ่งสัดส่วน ไฟเซอร์ฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์

เปิดเผยข้อมูลจากเลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้กล่าวถึงรายละเอียดการเสนอให้มีการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ทางด้านผู้อำนวยการก็ยืนยันเช่นนั้นเหมือนกัน ในขณะนี้กำลังรอข้อเสนอที่เป็นทางการ และจะรับพิจารณาพร้อมกับย้ำศบค. เพื่อฟังกระทรวงสาธารณสุขเป็นอันดับแรก เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงทรงตัว แลต้องนำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณา

จะมีมาตรการแบบไหนออกมานั้น หรือ จะต้องทำการหารือกันอีกรอบ ตอนนี้ขอให้ประชาชนทำความเข้าใจกับคำว่า Lock Down ก่อน เนื่องจากเคยมีมาตรการนี้ออกมาเมื่อเดือนเมษายน 2563 ปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นเป็นมาตรการปิดกิจการชั่วคราว และ ลดการเคลื่อนย้าย การประเมินมาตรการ จะยังเป็นวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 หรือไม่นั้น ได้มีการออกมาระบุว่าหากมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น จะมีการประเมินเร็วขึ้นตาม แต่ถ้าหากมีผู้ติดเชื้อ ที่มีตัวเลขทรงตัวการประชุมก็ยังคงเป็นวันที่ 12 เช่นเดิมเพื่อการประเมินที่ครบถ้วน แต่ไม่ใช่การนั่งดูตัวเลขเฉยๆ จะต้องประเมินควบคู่มาตรการอื่นๆไปด้วย เช่นการคุมการเคลื่อนย้าย, การจัดหาเตียงเพิ่ม, การรักษาพยาบาล ฯลฯ

การล็อกดาวน์ จะเป็นเพียงพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสเดลต้า หรือเหมือนกันทั้งประเทศนั้น ทางด้านเลขาสมช. ได้ออกมาระบุว่า อาจจะไม่เหมือนกัน และจะเน้นเฉพาะบางพื้น อย่างเช่น กทม. และปริมณฑล รวมถึง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สำหรับพื้นที่อื่นนั้น จะต้องมีมาตรการที่สูงด้วยเช่นเดียวกันเพราะถ้าหากเป็นการล็อกดาวน์ หรือเซมิล็อกดาวน์ ก็จะต้องมีการประเมินและลดไปด้วยตามลำดับ ที่ผ่านมาทางด้าน ศบค. ได้หลีกเลี่ยงการใช้คำว่าล็อกดาวน์ทั้งประเทศ เนื่องจากคำว่าล็อกดาวน์ทั้งประเทศนั้น คืการไม่ให้ไปไหนแต่ที่ผ่านมายังมีการอนุญาตให้เคลื่อนย้ายได้ แต่เมื่อไหร่ที่จำเป็นจะต้องใช้มาตรการ ล็อกดาวน์ ไม่ว่าจะเป็นบางช่วงเวลา หรือ บางพื้นที่ จะต้องมีความชัดเจนในสถานการณ์พร้อมกับย้ำว่า นิยามของคำว่า ล็อกดาวน์นั้นของศบค. คือเหตุการณ์เมื่อเมษายน 2563 จึงจำเป็นจะต้องมีมาตรการเยียวยาออกมาให้กับประชาชน

จากการตรวจสอบข้อมูลที่กระทรวงการคลังแจ้งมา เมื่อตอนมีการล็อกดาวห์ในเดือนเมษายน 2563 ปีที่แล้วใช้งยประมาณในการเยียวยา จำนวน 3 แสนล้านบาท และยังไม่สามารถเยียวยาให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง ทางศบค. จึงมีการเน้นย้ำออกมาว่าให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพได้ แต่จะต้องไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการวิเคราะห์ปัจจัยที่แท้จริง ทางกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจ ในเรื่องดังกล่าว ตอนนี้ทางกระทรวงยังมีการชี้แจงออกมาว่า วัคซีนยังมีประสิทธิภาพที่เพียงแค่ แต่อาจจะไม่ได้ตามที่ประชาชนต้องการ มีตรงนี้ก็ฉีดตรงนี้ไปก่อน แต่หากมีที่ดีกว่จะพิจารณาก็จะมีการจัดหาแบรนด์อื่นเข้ามาร่วม