ระเบิดที่กรุงเบรุต เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563

เบรุต (Beirut) เป็นเมืองหลวงของประเทศเลบานอน เป็นเมืองท่าสัญคัญแถมยังเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุด นอกจากนี้เมืองนี้ยังเป็นศูนย์กลางของการศึกษามีมหาวิยาลัยชื่อดังหลายแห่งตั้งอยู่ที่เมืองนี้ แถมยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเลบานอนอีกด้วย กรุงเบรุตมีพื้นที่ทั้งหมด 19.8 ตารางกิโลเมตร มีประชากรโดยประมาณ 2.4 ล้านคน เมืองนี้มีภูมิประเทศที่สวยงามมาก ตั้งอยู่ปลายแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในปัจจุบันประเทศเลบานอนอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่กว่าประเทศอื่นๆของโลก นอกจากกจะมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วยังมีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ รวมไปถึงปัญหาของรัฐบาลกับผู้ต่อต้าน และ ยังมีความตึงเครียดของพรมแดนกับประเทศอิสราเอลอีกด้วย

วันที่ 4 สิงหาคม 2563 เวลาของประเทศไทยโดยประมาณ 22.00 น. ได้เกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นนบริเวณท่าเรือของกรุงเบรุต การระเบิดเกิดขึ้นทั้งหมด 2 ครั้งด้วยกัน โดยครั้งที่ 2 แห่งจากครั้งแรกประมาณ 15 นาที ระเบิดลูกที่ 2 มีความรุนแรงกว่าระเบิดลูกแรกอย่างมาก แรงระเบิดทำให้เกิดกลุ่มควันสีแดงที่มีความสูงหลายร้อยเมตร เป็นภาพสุดช็อกของคนทั่วโลก ความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้อาคารบ้านเรือนในรัศมี 10 กิโลเมตร ได้รับความเสียหาย รวมไปถึงรถยนต์จำนวนหลายคันถูกทำลาย ผู้คนจำนวนมากติดอยู่ซากอาคารบ้านเรือน มีเสียงสัญญาญเตือนภัยดังขึ้น นอกจากนี้ยังมี่เสียงกรีดร้องของผู้คนดังโหยหวนทั่วทั้งเมืองเบรุต จากการตรวจสอบล่าสุด โรงพยาบาลเต็มไปด้วยคนเจ็บ ยอดผู้เสียชีวิตรวมล่าสุดอยู่ที่ 78 คน และ มียอดผู้บาดเจ็บราว 4,000 คน

บนโลกโซลเชียลได้ออกมาติกแฮชแท็ก #PrayForBeirut เทรนพุ่งติดอันดับโลก นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่คลิปจากการระเบิดในมุมต่างๆที่ถูกแชร์ต่อๆกันบนโลกโซเชียลหลายล้านครั้ง บางคนที่ถ่ายคลิปได้รับบาดเจ็บ บางคนเสียชีวิต จากการรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่นเลบานอน ได้ออกมารายงานว่าจุดที่เกิดระเบิดขึ้นนั้นเป็นจุดที่ถูกเก็บโกดังดอกไม้ไฟ ซึ่งใกล้กับท่าเรือ ตอนแรกเกิดไฟไหม้ก่อน หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยการระบาดครั้งใหญ่ ทางด้านรัฐมนตรีของเลบานอน เชื่อว่าการระเบิดอาจจะเกิดจากคลังสินค้าที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือ ซึ่งเป็นคลังที่เก็บสารแอมโมเนียไนเตรทไว้ถึง 2,750 ตัน ตั้งแต่ 6 ปีก่อน ทางรัฐบาลเคยออกมาเตือนถึงความอันตรายแล้วตั้งแต่ปี 2557 ทางสื่อท้องถิ่น ยังมีการออกมารายงานอีกด้วยว่า การระบาดครั้งนี้ อาจจะเกิดจากสารโซเดียมไนเตรทจำนวนมากที่ยึดได้จากเรือบรรทุกสินค้า และ นำมาเก็บเอาไว้ที่โกดังท่าเรือ ซึ่งสารนี้จะถูกนำไปใช้ผลิตดอกไม้ไฟ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุของการระเบิดครั้งนี้ได้