ทำความรู้จัก Social Distancing ลดการแพร่ COVID-19

Social Distancing คืออะไร?

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกในขณะนี้ หลายคนอาจจะได้เห็นวิธีการควบคุมการแพร่กระจายในหลายประเทศทั่วโลก อย่างวิธีที่ดีที่สุดคือการทำงานที่บ้าน (Work From Home) และอีกวิธีคือ Social Distancing แล้วมันคืออะไรกันนะ หลายสำนักข่าวต่างประเทศพูดกัน ถ้าถามว่าการแปลเป็นภาษาไทยจริงๆคืออะไร คงนิยามกันแบบเจาะจงไม่ได้ พูดอย่างง่ายๆก็คือ Social Distancing คือ การเพิ่มระยะห่างระหว่างตนเองและคนในสังคม กล่าวคือ การหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีคนอยู่เยอะ เพราะในพื้นที่การรวมกลุ่มคนมักเป็นที่ที่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้เป็นจำนวนมาก



การสร้างระยะห่างระหว่างตัวเราเองกับคนในสังคมนั้น ไม่ได้หมายความว่าต้องอยู่ในบ้านกักตัวเองไว้ตลอดเวลา
แต่หมายถึงการค่อยๆลดการออกไปข้างนอกโดยไม่จำเป็น อาจจะใช้การหลีกเลี่ยงใช้ขนส่งสาธารณะ และการไม่เข้าร่วมกิจกรรมกับหมู่คน เช่น คอนเสิร์ต ร้านอาหาร สถานบันเทิงต่างๆ เป็นต้น

โดยการใช้มาตรการ Social Distancing นั้นไม่ได้พึ่งเกิดขึ้น แต่มาตรการนี้เคยนำเอาไปใช้กับเหตุการณ์การระบาดทั่วโลกก่อนหน้านี้แล้ว เช่น การระบาดของไข้หวัดใหญ่สเปน (Spanish Flu) ประมาณปีคริสตศักราช 1918 – 1920 ที่มีความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตสูงมาก และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จากประเทศเม็กซิโกที่แพร่ระบาดไปยังทั่วโลกที่ผ่านมาก็ได้ใช้มาตรการนี้ด้วย


ซึ่งประเทศที่ใช้มาตรการนี้อย่างเข้มงวดคือ ประเทศอิตาลี เพราะมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในวงกว้างของสังคมอิตาลี ในส่วนประเทศไทยได้เริ่มการออกมาตรการ Social Distancing เช่น การสั่งปิดสถานบันเทิงต่างๆ รวมถึงห้างสรรพสินค้าบางแห่งชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้การแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น



ข้อแนะนำในการใช้วิธี Social Distancing

  1. ควรเว้นระยะห่างระหว่างตัวเรากับคนที่มีอาการไอหรือจามนั้น ควรรักษาความห่างอยู่ที่อย่างน้อย 1 เมตร เพราะอาการ สามารถติดต่อได้ผ่านละอองขนาดเล็กที่มาจากการไอหรือจามได้

  2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสทางกายภาพ เพราะเป็นการนำเชื้อมาสู่ตัวเองและก็สามารถเป็นการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้

  3. หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้าน หรือการใช้ขนส่งสาธารณะ เนื่องจาก COVID-19 นั้นสามารถติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสและละอองขนาดเล็ก เพราะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครในนั้นมีเชื้อไวรัสอยู่บ้าง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นพาหะ บางคนอาจมีการติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ

  4. การ Work From Home หรือการทำงานที่บ้านก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการแพร่เชื้อ

  5. การเรียนการสอนผ่านทางช่องทางออนไลน์ อีกช่องทางหนึ่งที่มหาลัยหรือสถานศึกษาต่างๆ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ เพื่อป้องกันการระบาดภายในมหาลัยและห้องเรียนได้

แต่อย่างไรก็ตาม ควรใช้ Social Distancing ควบคู่ไปกับการรักษาความสะอาด ด้วยการล้างมือด้วยการล้างมือบ่อยๆ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน ก็อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวเองในช่วงนี้


 

แสดงความคิดเห็นของคุณ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *