จบไปแล้วอย่างสวยงามกับงาน Thailand Affiliate Summit 2015 งานสัมมนาครั้งแรกของเมืองไทย ที่ขุนพล Affiliate มารวมในเวทีเดียวกัน งานนี้จัดขึ้นในนามของ ACCESSTRADE เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2558 ณ.โรงแรมแอมบาสเดอร์ โดยในงานมีทั้งเจ้าของร้านค้า (Advertiser) และ เจ้าของเว็บไซต์ (Partner) มาร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 200 ท่าน อีกทั้งยังมีการพูดคุยเสวนาเรื่อง “มุมมองนักการตลาดต่อ Affiliate Marketing ในประเทศไทย” โดยตัวแทนจากเจ้าของร้านค้าออนไลน์เอง รวมถึง เสวนาเรื่อง “เทคนิคการหา Traffic” โดยนัก Affiliate ผู้เชี่ยวชาญของประเทศไทย เรียกว่า ผู้ที่มาร่วมงานจะได้ทั้งความรู้ ความเข้าใจแบบอัดแน่น ชนิดคุ้มค่าอย่างแน่นอน

บรรยากาศในงาน Thailand Affiliate Summit 2015

เวลา 13:00 น. คุณยูยะ นากะ CEO ของบริษัท Interspace Thailand เจ้าของ Platform ACCESSTRADE ขึ้นกล่าวเปิดงาน Thailand Affiliate Summit 2015 อย่างเป็นทางการ

ช่วงต่อมาเป็นพิธีมอบใบแต่งตั้งการเป็น Official Partner ของ ACCESSTRADE ในประเทศไทย ให้กับนัก Affiliate ผู้เชี่ยวชาญ ทั้ง 7 ท่าน คือ

  1. ภควัต กุลจันทร์ (อาจารย์ปุ๊ก ไทยเซ็ม)
  2. พรหมเมธ นาคใหญ่ (อาจารย์ตาม อาศรมลาปเป็ด)
  3. สาธิต ทองจีน (พี่ต่อ ไทยเสียวบอร์ด)
  4. ภาวี กุลจันทร์ (คุณพราน ไทยเซ็ม)
  5. ณัฐพล งามอรุณสุข (คุณโน๊ต AffLovers)
  6. จตุพร ตุ่นกลาง (คุณปุ้ย ดอลล่าลิซึ่ม)
  7. ปรีชา สัพศรี (อาจารย์โชค โมบายแอพ)

ภควัต กุลจันทร์ (อาจารย์ปุ๊ก ไทยเซ็ม)

พรหมเมธ นาคใหญ่ (อาจารย์ตาม อาศรมลาปเป็ด)

สาธิต ทองจีน (พี่ต่อ ไทยเสียวบอร์ด)

ภาวี กุลจันทร์ (คุณพราน ไทยเซ็ม)

ณัฐพล งามอรุณสุข (คุณโน๊ต AffLovers)

จตุพร ตุ่นกลาง (คุณปุ้ย ดอลล่าลิซึ่ม)

ปรีชา สัพศรี (อาจารย์โชค โมบายแอพ)

ช่วงแนะนำ Offer Advertiser โดย Affiliate Manager ACCESSTRADE

จากนั้นคุณ Nuttachai Rassadondee Affiliate Manager ของ ACCESSTRADE ขึ้นแนะนำเกี่ยวกับ Offer ต่าง ๆ มีเนื้อหาสาระสำคัญ ดังนี้

ก่อนอื่นก็แนะนำ Type of Offer in ACCESSTRADE ว่า แคมเปญของ ACCESSTRADE นั้นจะอยู่ในรูปแบบของ Cost per Action (CPA) ซึ่งแบ่งย่อยเป็น
1. Cost per Sale(CPS) แคมเปญที่คุณจะได้รับเงินค่าคอมมิสชั่น เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าและมีการชำระเงินเสร็จสิ้น อาทิ แคมเปญของ E-commerce, Shopat7, cdiscount, tarad.com, wearyouwant.com,
kiehls.co.th, italthaicellar.com etc.
2. Cost per Lead(CPL) แคมเปญที่คุณจะได้รับเงินค่าคอมมิสชั่น เมื่อมีการส่งข้อมูลให้กับผู้ให้บริการ เช่น มีการกรอกชื่อ อีเมล์ หรือ เบอร์โทรศัพท์ อาทิ แคมเปญของ KTC Credit Card, Citi Bank Credit
Card, Wall Street English, Kaidee.com, ClickBus, ADB Insurance etc.
3. Cost per Installation(CPI) แคมเปญที่คุณจะได้รับเงินค่าคอมมิสชั่น เมื่อมีการติดตั้งโปรแกรม หรือ Application ลงในอุปกรณ์ มือถือ แท๊ปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ อาทิ แคมเปญของ Boyaa Texas Poker Android

ความยากง่ายของ Offer แต่ละแบบ

CPS ลูกค้าต้องชำระเงินก่อน หากช่องทางชำระเงินไม่หลากหลาย ไม่สะดวก ลูกค้าจะชำระเงินช้า หรือเปลี่ยนใจไม่ซื้อ เมื่อลูกค้าชำระเงินเสร็จ ร้านค้าจัดส่งของถึงมือลูกค้า เราได้รับเงิน
CPL ง่ายที่สุดคือเพียงแค่กรอกข้อมูล ลูกค้าไม่ต้องเสียเงิน เพียงแค่รอทีม Tele-sale โทรเข้าไปยืนยันว่ามีตัวตนอยู่จริง ก็รับเงินไปเลย
CPI ลูกค้าทำการติดตั้ง Application บนมือถือแล้วเปิดใช้งานครั้งแรก เราจึงจะได้รับเงิน

ระยะเวลาในการ Review และ Payment

  • ปกติแล้ว cookies ของ ACCESSTRADE จะมีระยะเวลา 60 วัน เว้นแต่ว่า บาง offer จะเซ็ทไว้เป็นอย่างอื่นเช่น 30, 15, 7, 3 วัน หาก Transaction เกิดวันที่ 1-30 ของเดือน ปัจจุบันเราพยายามขอความร่วมมือจากร้านค้า Advertiser ให้ Review และ Approve หรือ Rejected ให้เสร็จภายในสิ้นเดือน(วันที่ 30)
  • หากเงื่อนไขร้านค้าเป็นอย่างอื่นเราจะนับยอดที่ Approve ตามเดือนที่ Approve แม้ว่า Transaction นั้นจะเกิดเมื่อเดือนที่แล้ว เว้นแต่ว่า
  • หากทางร้านค้าไม่ Approve ภายใน 60 วันเราจะทำการ Auto Approve ให้
  • วันที่ 5 ของเดือนถัดมา จะมีปุ่มร้องขอการจ่ายเงิน, affiliate ต้องกดปุ่มนั้นภายในสิ้นเดือน มิฉะนั้นจะไม่ได้รับเงินและยกยอดไปเดือนต่อไป
  • ยอดจ่ายเงินขั้นต่ำ 500 บาท
  • เมื่อ affiliate กดปุ่มร้องขอ การจ่ายเงิน ACCESSTRADE จะจ่ายเงินให้วันที่ 15 ของเดือนถัดไปนับระยะเวลา จากวันที่ Approve ไป 45 วัน Affiliate จะได้รับเงิน
Example

เกิด Transaction วันที่ 1-30 ของเดือนมีนาคม 58
วันที่ 30 มีนาคม ร้านค้าทำการ Review และ Approve หรือ Rejected
วันที่ 5 เมษายน มีปุ่ม ‘ร้องขอ’ การจ่ายเงินเกิดขึ้นที่หน้า Dash Board ของ Affiliate โดยจะจ่ายเฉพาะยอดที่ Approve เท่านั้น
วันที่ 15 พฤษภาคม ได้รับเงิน

กรณีที่ไม่มีการ Approve ภายในเดือนนั้น ๆ

เหตุผลหลักมักเกิดจากเงื่อนไขข้อตกลงของทางร้านค้า(Advertiser) เช่น จะ Approve เฉพาะรายการที่จ่ายเงินเข้ามาแล้วเท่านั้น โดยที่ร้านค้าให้ระยะเวลาลูกค้าชำระเงินช้าสุดภายใน 7 วัน ถึงจะยกเลิก Transaction นั้น ๆ

Example

ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าวันที่ 26 มีนาคม แล้วไปจ่ายเงินวันที่ 1 เมษา 58 ทำให้ Transaction นี้จะขึ้นเป็น Pending จนถึงสิ้นเดือนเมษา และรอ Approve หรือ Reject ภายวันที่ 30 เมษา 58 ร้านค้าจะ Approve เฉพาะเมื่อ Team Tele-sale โทรไปสอบถามข้อมูลแล้วเท่านั้น (Lead Offer) บางครั้งลูกค้าปิดเครื่อง หรือยังไม่สะดวกคุย

แล้ว Offer ตลาดไหนทำเงินที่สุด หรือ ตลาดไหนมาแรงที่สุดในขณะนี้ ?

จากสถิติย้อนหลัง 6 เดือน ตลาดที่ทำเงินสูงที่สุดคือตลาด E-commerce หรือตลาด Retailer มียอดขายผ่านระบบของ ACCESSTRADE เฉลี่ยถึงสัปดาห์ละ 1 ล้านบาท!!! และกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทำไมตลาดนี้ถึงบูมมากขนาดนี้ ?

เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเมืองไทยเปลี่ยนไป คนไทยกล้าทำธุรกรรมทางการเงินที่เสี่ยงมากขึ้น เช่น โอนเงินให้ร้านค้าบน Facebook ที่แทบจะไม่รู้จักตัวจริงกันเลย ซื้อสินค้าที่เห็นแต่รูปตัวอย่างแต่ ไม่เห็นสินค้าจริง ๆ พอเจอร้านค้าที่ดูมีความน่าเชื่อถือ มีระบบจ่ายเงินที่ทันสมัย สะดวก ปลอดภัย จึงตัดสินใจง่ายขึ้นนั่นเอง
สุดยอดแคมเปญ E-commerce หรือ CPS ขณะนี้

  • แคมเปญของ Shopat7.com
  • แคมเปญของ cdiscount.co.th
  • แคมเปญของ Topvalue.co.th
  • แคมเปญของ Tarad.com (ให้ค่าคอม 6% ของสินค้าทุก ๆ ชิ้นที่ขายอยู่ใน tarad.com)

สุดยอดแคมเปญ CPEL หรือ Cost Per Eligible Lead ขณะนี้

  • แคมเปญของ KTC Credit Card
  • แคมเปญของ Kaidee.com
  • แคมเปญของ Ballooooooon

สุดท้ายคือแคมเปญ CPI หรือ Cost per install
ซึ่งตลาดสินค้า สาย mobile traffic ปัจจุบันยังมี offer mobile ในไทยยังไม่มากนัก แต่ในปลายเดือนเมษา ACCESSTRADE จะมีการพัฒนา Mobile ads network เป็นของตนเอง เตรียมตัวรุกตลาด Mobile
อย่างเต็มตัว อีกทั้งปัจจุบันยังมีแคมเปญ Kaidee.com ใน iOS และ android แคมเปญ Boyaa Texas Poker มีเฉพาะ Android

 

ช่วงต่อไปเป็นการ เสวนาเรื่อง “มุมมองนักการตลาดต่อ Affiliate Marketing ในประเทศไทย” โดยตัวแทนจากเจ้าของร้านค้าออนไลน์ ซึ่งตัวแทนที่ขึ้นมาพูดคุย มี Advertiser จาก Kaidee.com , ShopAt7.com

และ ACommerce เป็นช่วงถามตอบของพิธีกร ซึ่งพอสรุปไว้พอสังเขป ดังนี้

  • ทางแคมเปญของ Kaidee.com มี Offer ประเภท CPL ค่าคอมอยู่ที่ 50 บาทต่อคน มี Budget ที่สูงปัจจุบันลงโฆษณาในหลายช่องทางหากช่องทางไหนมีผลตอบแทนได้สูง ก็ยินดีที่จะจ่ายค่าคอมมิสชั่นให้มาก
  • ทางแคมเปญของ ShopAt7.com มี Offer ประเภท Retail(ค่าปลีก) เป็นหลัก ค่าคอมอยู่ที่ 10 – 15% โดยหมวดหมู่ขายดีจะเป็นสินค้าประเภท อุปกรณ์ไอทีและสมาร์ทโฟน ความสวยความงาม นาฬิกาข้อ
    มือ(Casio) เครื่องออกกำลังกาย ผ้าอ้อมเด็ก ซึ่ง Officialของ ShopAt7.com มีจุดเด่นอยู่ที่การจ่ายชำระเงินที่สะดวก สบาย สามารถจ่ายเงินได้ที่หน้าร้านเซเว่นและ CounterService ทุกสาขา
  • ACommerce มี Offer ประเภท Retail(ค่าปลีก) ค่าคอมอยู่ที่ 10 – 15% ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม โดยหลัก ๆ เป็นสินค้าจาก Cdiscount ,PetLoft(สัตว์เลี้ยง) , Venbi(แม่และเด็ก)

 

 

และช่วงที่ถือว่าเป็นไฮไลท์มากที่สุดสำหรับ งานวันนี้ก็คือ ช่วง เสวนาเรื่อง “เทคนิคการหา Traffic” โดยวิทยากรผู้ที่ขึ้นให้ความรู้ท่านแรกคือ

คุณภควัต กุลจันทร์ (อาจารย์ปุ๊ก WP-God Father) ในหัวข้อเรื่อง การทำเว็บไซต์โดยใช้ WordPress

ซึ่งเป็นพื้นฐานโดยทั่วไป แต่เน้นเรื่องของการทำ List Building(Email) หรือ Subscribe บนเว็บไซต์

  • WordPress SEO By Yoast เป็น Plugin ที่ใช้ในการปรับแต่ง On Page SEO ของเว็บไซต์ สามารถปรับแต่งได้ง่าย เช่น MetaTag, Permalink, XML Sitemap, Social Sharing เช่น Facebook และ Google Plus
    รวมถึงการทำ Page Analysis [Heading, Title, URL, Content, Mata Description] เป็นต้น
  • การเลือกใช้ Responsive Theme เพื่อรองรับการเข้าใช้งานเว็บไซต์จากมือถือ ซึ่งอาจารย์ปุ๊กได้แนะนำ 50 Beautiful & Free Responsive WordPress Themes to Build Awesome Websites 2015
  • การทำ Landing Page ที่ดี นั้นต้องออกแบบให้รู้ว่าหน้าเพจนั้นสื่อถึงอะไร มีส่วนของ Header ส่วนของ Summary และเทคนิคของอาจารย์ปุ๊กคือ การให้ใส่ Link ที่ Image เพราะว่าเปอร์เซ็นต์การคลิกของผู้ใช้ ส่วนใหญ่จะคลิกที่รูปภาพมากกว่า

การทำ Content & Search Engine Success Factors

  1.  ทำเนื้อหาให้มีคุณภาพ เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่าน อย่าสะกดผิด
  2. ทำการค้นหาข้อมูลของทั้งเนื้อหาและคำค้นหา(Keyword Research)ต่าง ๆ
  3. แทรกเนื้อหาที่มี Keywords ให้เหมาะสมอย่างน้อย 5 ตำแหน่ง หรือ Keyword Density 2-3 %
  4. Content Engagement
  5. Content Freshness

จากนั้นอาจารย์แนะนำการใช้ Free Domain และ Hosting และเรื่องถัดไปเป็นการ SPY ข้อมูล ทำได้ง่าย ๆ โดยการ หาสินค้า หรือ Keyword จากเว็บไซต์ E-commerce แล้วนำไป Search ที่ Search Engine โดยเติมภาษาไทยเข้าไป เช่น ค้นสินค้าเป็นกล้อง Nikon Coolpix L330
Nikon Coolpix L330 Digital Camera + ซื้อ
Nikon Coolpix L330 Digital Camera + ขาย
Nikon Coolpix L330 Digital Camera + จำหน่าย
เมื่อเจอ Keyword = เจอคู่แข่ง = เจอเว็บไซต์ นั้นเอง

หลักการทำ Affiliate Marketing

  1.  เลือกตลาด หรือ สินค้า เช่น Electronics หัวข้อรอง Digital Cameras
  2.  หาสินค้าโดยพิจารณาด้านต่าง ๆ เช่น Niche Products [Brand,Model]
  3.  หา Keyword ตามสินค้า แนว Long tail Keyword หรือ คำค้นหาเฉพาะที่เป็นรูปคำยาว ๆ
  4.  หา Contents โดยการ Search, Article Directory ใช้ Program หรือ Out Source หาทีมงานรับจ้างโดยเฉพาะก็ได้
  5. ทำเนื้อหาที่มีความสดใหม่ หรือ สร้าง ปั่น Contents ขึ้นมาก็ได้
  6. ติดตั้ง WordPress แล้วตั้งค่า Script เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
  7. ออกแบบ Layout [OnPage SEO] จากนั้น โพสต์ เนื้อหาลงไปในเว็บ
  8. หา BackLink เพิ่มเติมด้วยการ Ping Site/URL ใช้ RSS Feed Submit Sitemap ตามที่ต่าง ๆ ใช้ Social Bookmark รวมถึง Private Network/Link Network
  9. วนลูปทำซ้ำขั้นตอนเดิม ในสินค้าเดิมเพื่อ ส่งกองหนุน หรือ
  10. ทำสินค้าใหม่ เพื่อค้นหาตลาดใหม่ ๆ

วิทยากรท่านต่อไปที่ขึ้นให้ความรู้คือ คุณพรหมเมธ นาคใหญ่ (อาจารย์ตาม อาศรมลาปเป็ด) ในหัวข้อ ทำรายได้จาก Affiliate ด้วย SEO อย่างไร ?

ต้องรู้ก่อนว่า ผู้ใช้งานที่จะพิมพ์ค้นหาอะไรเพื่อที่จะเข้าเว็บไซต์ของเรา (Think About What a User is going to type) by Matt Brittin
จากนั้น อาจารย์ตาม ยกตัวอย่างคำว่า กล้องติดรถยนต์ ในการแยกประเภทของ Keyword
ส่วนของ Head กล้องติดรถยนต์ (มีการค้นหาเยอะที่สุด)
ส่วนของ Body ราคากล้องติดรถยนต์ (มีการค้นหาต่ำกว่าส่วนของ Head แต่ขอบเขตของคำนั้นกว้างกว่า )
ส่วนของ Tail หรือ Longtail ราคากล้องติดรถยนต์ HD (มีการค้นหาต่ำที่สุดแต่เฉพาะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุดด้วยเช่นกัน)
จากนั้นจะเป็นการแนะนำเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับการตรวจสอบด้านต่าง ๆ ของ Keyword เช่น

  • Longtail Pro วิเคราะห์ความยากง่ายของ Keyword
  • Moz Bar ใช้ดูค่า Domain Authority และ Page Authority ค่าที่มีความสำคัญในการทำอันดับบนหน้า Google
  • Pro Similar Web เพื่อดูข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ ของเว็บนั้น ๆ

สุดท้ายอาจารย์อธิบายถึง SEO Factor อยางสั้น ๆ ว่า

  • URL ควรมี Keyword อยู่ใน URL ด้วย
  • Onpage Factor (h1 ควรมีอย่างน้อย 1 ที่ เป็นต้น)
  • Off Page Factor การทำลิงค์ Building ไม่ต้องทำเยอะมาก ทำแต่เน้น ๆ ก็พอ
  • ต้องมีตัวชวยอย่าง Social Medie เข้ามาเป็นแรงหนุนเว็บไซต์อีกทางด้วย ซึ่ง Social ที่มีผลต่อการทำ SEO คือ Facebook Post Like , Facebook Post Share , Google Post Like และ Twitter tweet

วิทยากรท่านที่ 3 คือ คุณสาธิต ทองจีน (พี่ต่อ ไทยเสียวบอร์ด) ขึ้นมาบรรยายในหัวข้อ Webboard Marketing

ทำไมต้องใช้ webboard ?

Webboard คือ Community (ชุมชน) ที่มีคนเข้าใช้งานจำนวนมาก สามารถสร้าง traffic ได้เร็ว และตรงกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังใช้สำหรับติดต่อสื่อสารกับสมาชิกได้ง่าย

การเริ่มต้นสร้าง webboard

สำหรับยุคปัจจุบันมี Opensource สำหรับสร้าง webboard มากมายหลายตัวให้เลือกใช้ เช่น
SMF (www.simplemachines.org)
VBulletin (www.vbulletin.com)
phpBB (www.phpbb.com)
Invision Power Board – IPB (www.invisionpower.com)

ปัจจัยที่ทำให้ webboard มีคนเข้าเยอะ ๆ มีดังนี้

  • ต้องเลือกสร้าง webboard เฉพาะกลุ่มเป้าหมาย
  • อย่าแตกห้องย่อยใน webboard มากเกินไป
  • สร้าง Content หรือ เนื้อหาให้มากที่สุดในช่วงเริ่มต้น
  • โปรโมทดึงคนที่ตรงกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาที่ webboard

ดูแล webboard ให้เติบโต สม่ำเสมอได้ด้วยวิธีการ

  • เข้า webboard เป็นประจำ
  • หา content ใหม่ ๆ มาลงอย่างเสมอ
  • ทำให้คนเข้ามาพูดคุยใน webboard ของเราเยอะ ๆ
  • ตั้งสมาชิกขึ้นเป็นผู้ช่วยกันดูแล webboard
  • จัด meeting อย่างสม่ำเสมอ

การหารายได้จาก webboard

สามารถทำได้โดย การเก็บค่าสมาชิก ค่าบำรุงรักษาระบบจะเก็บครั้งเดียว หรือ เก็บรายเดือน รายปี ก็ได้
ทำเป็นสินค้าที่ระลึกขาย เช่น เสื้อ ขายโฆษณา (banner) ทำ CPC, CPM , CPA, CPI และ Affiliate เป็นต้น

webboard กับการทำ Affiliate

  • การทำ Affiliate บน Webboard ใช้ได้หลายวิธีด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น
    ทำรีวิวสินค้า หรือ โปรโมทสินค้าใกล้เคียง
  • รวบรวมความเห็น รวมทั้งประเด็นใน internet นำมาเผยแพร่ใน Webboard
  • จากนั้นทำการติดป้ายหรือ link ในตำแหน่งที่โดดเด่นเห็นได้ชัด
  • สุดท้ายวิธีการยอดฮิต คือการ Share ลง Facebook นั้นเอง

วิทยากรท่านที่ 4 คุณ ภาวี กุลจันทร์ (พราน ThaiSEM) ในหัวข้อ Traffic on Facebook

ทำไมต้องโฆษณาใน Facebook

  • เพราะ มีผู้ใช้งาน Facebook เป็นจำนวนมาก
  • Facebook นั้นสามารถทำโฆษณาได้ง่าย
  • เลือกกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะเจาะจง (เพศ , อายุ , สถานที่อยู่ , ความสนใจ)
  • สามารถเลือกแสดงผลโฆษณาบน Desktop PC หรือ มือถือ
  • เข้าถึงผู้คนได้ทุกระดับชั้น
  • วัดผลข้อมูลได้ง่าย

การทำ Customer Targeting บน Facebook

ต้องมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนว่า
เป็นใคร : เราต้องรู้ว่าลูกค้า คือใคร อายุเท่าไร เพศชาย หรือ หญิง ใช้ภาษาอะไร
ทำอะไร : ลูกค้าเราทำอะไร อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมไหน กลุ่มอาชีพอะไร
อยู่ที่ไหน : ลูกค้าเราอยู่ที่ไหน กำหนด พื้นที่ที่คาดว่าลูกค้าเราอยู่ ทั้งแบบ ประเทศ (กว้าง) จังหวัด (แคบ) และ อำเภอ (แคบมาก)
สนใจอะไร : สิ่งที่ลูกค้าสนใจ หาสิ่งที่ลูกค้าเป้าหมายสนใจเกี่ยวกับสินค้าของเรา

การทำ Custom Audience บน Facebook นั้นมีจุดประสงค์

  • เพื่อให้ถึงลูกค้าเป้าหมายที่ตรงขึ้น
  • เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของเราเอง
  • เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของคู่แข่ง

เมื่อกลุ่มลูกค้าสนใจเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ได้ทำโฆษณาไว้แล้วก็ทำ Retargeting เป็นการตอกย้ำสิ้นค้าให้ลูกค้าเห็น จนถึงปิดการขายได้ต่อไป

วิทยากรท่านที่ 5 : คุณ ณัฐพล งามอรุณสุข (โน๊ต AffLovers) ขึ้นบรรยายในหัวข้อ เทคนิคการทำ Paid Traffic โดย PPC

คุณโน๊ตได้มอบเคล็ดวิชาสั้น ๆ ไว้ 8 ข้อดังนี้

  1. Offer ที่ดีควรทำโฆษณาที่แทบไม่จำเป็นต้องทำโฆษณา คือ offer ที่ขายได้ด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว
  2. สินค้าใดกำลังมีโปร จงรีบโผไปทดสอบ … 27% ของสถิติบอก คนไทยชอบซื้อเพราะโปรโมชั่น
  3. Keyword ที่กำไรดี คือคำที่คนส่วนใหญ่คิดไม่ถึง ดูลึกซึ้งจนไม่น่าจะใช่
  4. อย่ากลัวการบิดแข่งใน Keyword ที่มีกำไร ผู้ใด เงินและใจ ใหญ่จะได้มันมาครอง
  5. Headline โฆษณาคือส่วนที่คนอ่านผ่านตามากที่สุด จงใส่จุดให้มันยาวขึ้น
  6. อย่ามองข้าม Ad extension เพราะมันเพิ่ม Conversion ดีนักแล
  7. จงใช้ Paid Search หาลูกค้า แล้วตามโฆษณาด้วย Remarketing
  8. Tracking คือสิ่งที่สำคัญ 7 วิชาก่อนหน้านั้นเทียบค่าไม่ได้เลย

วิทยากรท่านที่ 6 : จตุพร ตุ่นกลาง (คุณปุ้ย ดอลล่าลิซึ่ม) ขึ้นบรรยายในหัวข้อ Media Buying

คุณปุ้ย ได้ให้ Tip สำหรับการทำ Mobile Media Buying ไว้ดังนี้

  • มีการวางแผนและทำการค้นขว้าข้อมูล
  • กฎ 3T T แรก คือ Testing อย่าเชื่อมั่นในตัวเอง ให้เชื่อข้อมูลเป็นหลัก T ที่สอง Tracking ผู้ที่ทำ Mobile Media Buying ต้องทำการ Tracking เพื่อทราบว่า Banner ไหนทำเงิน Banner ไหนขาดทุน T สุด
    ท้ายคือ Tuning ปรับแต่ง Campaign ที่ลงโฆษณา เพื่อทำกำไรให้มากขึ้น
  • Think outside the banner
  • Focus on 1 Traffic Source until success
  • Ads types split testing
  • Try CPC Before CPM

และวิทยากรท่านสุดท้าย : คุณปรีชา สัพศรี (อาจารย์โชค โมบายแอพ) บรรยายในหัวข้อ สร้างรายได้จาก Affiliate Marketing ผ่าน Mobile APP

อาจารย์โชคพูดถึง Affiliate Marketing ผ่าน Mobile APP ในภาพรวมกว้าง ๆ เกี่ยวกับ Trend การสร้างรายได้จาก Mobile App ที่เริ่มเติบโตมากขึ้นในปัจจุบัน และจะเป็นกระแสที่นิยมอย่างมากในอนาคตไว้ อย่างสั้น ๆ ซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติมในหัวข้อของการทำ Reskin App ผ่านคอร์ส Reskin ที่อาจารย์โชคเป็นผู้สอนได้

เมื่อจบก็เข้าสู่ช่วงสุดท้ายปิดงาน Thailand Affiliate Summit 2015 ด้วยการถ่ายภาพร่วมกันระหว่าง ตัวแทนร้านค้า (Advertiser) และตัวแทนเจ้าของเว็บไซต์ (Partner)

เรียกว่าจบงาน  Thailand Affiliate Summit 2015 อย่างลงตัว ยิ่งใหญ่ ทั้งเจ้าของร้านค้า(Advertiser) รวมถึงเจ้าของเว็บไซต์(Partner) ต่างยินดีอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการเริ่มต้นอย่างสดใสของวงการ Affiliate เมืองไทย

แสดงความคิดเห็นของคุณ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *